วันนี้ (25 พ.ค.66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และ บก.สส.บช.น. จับกุม น.ส.ชนัญชิดา หรือแพรวพราว อายุ 27 ปี ชาวจ.มหาสารคาม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงขอนแก่นที่ จ.48/2566 ลงวันที่ 17 ก.พ.66 ข้อหาฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และหมายจับศาลจังหวัดพะเยาที่ จ.30/2566 ลงวันที่ 30 ม.ค.66 ข้อหาฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
สืบเนื่องจากตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าสู่ตลาด “ทุเรียนออนไลน์” โดยจะเข้าไปอยู่ตามกลุ่มขายของ ขายอาหาร ทั้งทางเฟซบุ๊ก และ กลุ่ม OpenChat ทางไลน์ จากนั้นจะโพสต์ขายทุเรียน โดยอ้างเป็นทุเรียนหมอนทองคุณภาพดีจาก จ.จันทบุรี ในราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้แล้ว ก็ไม่มีการส่งทุเรียนให้แต่อย่างใด โดยมิจฉาชีพรายนี้ก่อเหตุมานานหลายปี อาศัยยอดความเสียหายที่ไม่มาก ทำให้ผู้เสียหายหลายรายปล่อยผ่าน หรือบางรายที่แจ้งความดำเนินคดีก็จะรีบเคลียร์เงินคืนอย่างรวดเร็ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามิจฉาชีพรายนี้คือ น.ส.ชนัญชิดา มีหมายจับกว่า 2 หมายจับ และจากการตรวจสอบพบข้อมูลการก่อเหตุอีกกว่า 5 คดี แต่เจ้าตัวยังตระเวนก่อเหตุไม่เลิก ทำให้ประชาชนกลุ่มคนรักทุเรียนได้รับความเดือดร้อนและหวาดระแวงที่จะต้องสั่งทุเรียนทางออนไลน์ กระทั่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุด PCT 5 และ สืบนครบาล ลงพื้นที่แกะรอย จนทราบว่าเจ้าแม่ทุเรียนเก๊รายนี้อยู่ละแวก ต.บางด้วน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงใช้แผน “ล่อเข้” หลอกให้เจ้าแม่รายนี้ขับรถมาให้จับกุมแบบงง-งง โดยจับกุมได้ที่หน้าหอพักใน ต.บางด้วน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
จากการสอบสวน น.ส.ชนัญชิดา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเองไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จุดเริ่มต้นของการเริ่มหลอกลวงขายทุเรียน เพราะตนเองเป็นคนชอบกินทุเรียน เมื่อไปเดินตลาดหาซื้อทุเรียนก็ได้ถ่ายภาพไว้จำนวนมาก และนำภาพทุเรียนเหล่านั้นมาโพสต์ในโลกโซเชียล ปรากฎว่ามีคนสนใจจำนวนมาก จึงเกิดไอเดียที่จะหลอกขายทุเรียน หากผู้เสียหายรายใดเข้าแจ้งความก็จะนำเงินไปคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนน้อยที่แจ้งความ เพราะยอดเงินที่ตนเองหลอกลวงนั้นไม่สูงมาก และล่าสุดตนเองมีความตั้งใจจะเปลี่ยนจากการหลอกขายทุเรียนเป็นการหลอกขายอาหารสด โดยจะส่งเฉพาะคนที่อยู่ใกล้ๆ บ้าน หากใครอยู่ไกลก็จะไม่ส่ง
ทั้งนี้ หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมาย
