ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงหลังใหญ่ ที่ด้านข้างต่อเป็นที่จอดรถ พบรอยเลือดจำนวนมากหลายจุด ซองใส่อาวุธปืน และอาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ 1 กระบอก ส่วนคนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยมราช ไปก่อนแล้ว ทราบชื่อ นายอนุกูล อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณหน้าอก 2 นัด และนายนายอุดม อายุ 62 ปี มือปืนผู้ก่อเหตุ แต่นายอนุกูลเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติ
จากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า ที่บ้านประกอบอาชีพทำนา มีธุรกิจรถเกี่ยวข้าวและรับอัดฟางก้อน โดยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ เรื่องที่มีการเผาฟาง เผากิ่งไม้ 2 ครั้ง ครั้งแรกนานมาแล้วหลายเดือน ซึ่งพ่อได้เผาฟางข้าว แล้วเปลวไฟได้ไปโฉบต้นไทรเกาหลีของผู้ก่อเหตุ ซึ่งปลูกทำรั้วรอบสวนอยู่ติดที่นาและที่บ้านของเรา หลังเกิดเหตุพ่อได้รับผิดชอบด้วยการนำปุ๋ยไปใส่ และช่วยรดน้ำจนต้นไม้ฟื้นสภาพ ต่อมาครั้งที่ 2 ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา พ่อได้นำกิ่งมะพร้าวไปสุมไฟเผากิ่งไม้แห้ง ทำให้ไฟลุกเป็นกองใหญ่ แล้วไปไหม้ต้นไม้ของผู้ก่อเหตุอีก จากนั้นทางผู้ก่อเหตุได้โทรไปหาน้าชายที่เป็นตำรวจแบบไม่พอใจ ขณะที่แม่ของตนก็บอกว่าจะรับผิดชอบให้ จะไปดูแลให้ ซึ่งทุกครั้งทางผู้ก่อเหตุจะโทรไปหาน้าที่เป็นตำรวจ เรายังเคยคิดว่าทำไมมีอะไรไม่มาคุยกับที่บ้าน จะได้หาทางแก้ไขได้
สำหรับวันนี้ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถกระบะมาจอดที่บ้าน แล้วลงมาโดยไม่ดับเครื่องยนต์ จากนั้นเดินมาชี้หน้าด่า มีปากเสียงกับพ่อ ส่วนพ่อก็อธิบายเหตุผล แต่ผู้ก่อเหตุซึ่งมือจับอยู่ที่เอวไม่ฟังเหตุผลที่พ่ออธิบาย จนมีการโต้เถียงกัน กระทั่งผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมายิงใส่พ่อประมาณ 4 นัด แล้วพ่อ กับแม่ ต่างก็วิ่งหลบ หลังจากยิงถูกพ่อแล้ว ก็หันมาจะยิงแม่ ตนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้กระโดดแย่งปืน แล้วก็ใช้กำปั้นทุบไปหลายครั้ง เขายังหันมามองหน้าตน จากนั้นมีคนข้างบ้านมารับผู้ก่อเหตุไป ส่วนพ่อซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ทางแม่และญาติได้พาไปส่งโรงพยาบาล
ด้าน พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้อายัดตัวนายอุดมผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช รอให้อาการดีขึ้นจะได้นำตัวมาสอบสวนถึงสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้อย่างละเอียด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายอุดมในฐานความผิด “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”