2 โจ๋ใช้ปืน จี้ชิงกระเป๋านักเรียน ขณะนั่งรอรถไปโรงเรียน ตำรวจใช้เวลา 10 ชม. ตามจับตัวได้

2 โจ๋ใช้ปืน จี้ชิงกระเป๋านักเรียน ขณะนั่งรอรถไปโรงเรียน ตำรวจใช้เวลา 10 ชม. ตามจับตัวได้

View icon 385
วันที่ 26 พ.ค. 2566 | 11.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจปิดจ็อบ 10 ชั่วโมง รวบ 2 โจ๋ ขี่รถ จยย. ใช้ปืนจี้ชิงกระเป๋านักเรียน อายุ 14 ปี ขณะนั่งรอรถไปโรงเรียน

วันนี้ (26 พ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี น.ส.เตือนใจ อายุ 40 ปี แม่ค้าขายของในตลาดคลองเตย พาลูกชายวัย 14 ปี มาแจ้งความ สน.ท่าเรือ หลังลูกชายถูกวัยรุ่นชาย 2 คน ชิงทรัพย์ขณะกำลังนั่งรอรถโดยสารอยู่ที่ป้ายรถประจำทางบริเวณแฟลต 1-10 ถนนอาจณรงค์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางไปโรงเรียนในช่วงเช้า  โดยชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์สีดำไม่ทราบยี่ห้อคัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน็อกมาจอดบริเวณป้ายรถประจำทาง แล้วได้เดินลงมาพูดกับลูกชายว่า “ขอกระเป๋าได้ไหม” แต่ลูกชายตนไม่ให้ คนร้ายจึงพูด “ขอกระเป๋าได้ไหม” ซ้ำอีกครั้งพร้อมชักอาวุธปืนออกมาจากเอวชี้มายังลูกชายของตน ทำให้ตกใจกลัวเป็นอย่างมากจึงให้กระเป๋ากับคนร้ายไป

ต่อมา พ.ต.อ.พีรธรรม คำจร ผกก.สน.ท่าเรือ, พ.ต.ท.กิตติพันธ์ เดชสุนทรวัฒน์ รองผกก.สส.สน.ท่าเรือ, พ.ต.ท.ปัญจวุฒิ ดาวล้อมจันทร์ รอง ผกก. ป. สน.ท่าเรือ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ทั้งฝ่ายสืบสวนและป้องกันปราบปราม สืบสวนติดตามคนร้ายทันที โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) บริเวณใกล้เคียงพบภาพคนร้าย ซึ่งผู้เสียหายยืนยันจำใบหน้าได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายพบว่ามุ่งหน้าไปทางสำโรง และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยทิพวัลย์ เทพารักษ์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปเจอตัวคนร้าย และได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ทราบชื่อคือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และนายบี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นอกจากนี้ ยังพบกระเป๋าของผู้เสียหาย เสื้อผ้า รองเท้า รถจักรยานยนต์ และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุมและตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันชิงทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือร่วมกันรับของโจร และแจ้งสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทราบ ก่อนนำตัวมาบันทึกจับกุมที่ สน.ท่าเรือ นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ผู้เสียหายรู้สึกอุ่นใจ และชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือที่ได้ติดตามคนร้ายมาลงโทษตามกระบวนการของกฎหมายได้อย่างรวดเร็วภายใน 10 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง