"ศิธา" ชี้ "หมอชลน่าน"ไม่ยอมจบ วอนหยุดใช้ตนเป็นแพะต่อรอง"ก้าวไกล" ชิงตำแหน่งประธานสภา ลั่น ไม่มี"พรรคไทยสร้างไทย" ก็ตั้งรัฐบาลได้ ขอแค่จับมือกันให้แน่น
ศิธาเปิดใจ วันนี้(26 พ.ค.2566) น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยถึง สาเหตุที่ต้องโพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์เกี่ยวข้องกับ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นเพราะ นายแพทย์ชลน่าน ยังเดินสายออกรายการตำหนิว่าตนเองเสียมารยาทในเรื่องเดิม ๆ ทั้งที่ตนเองได้ขอโทษไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมจบ ตำหนิตนอยู่ฝ่ายเดียวจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ออกมาปกป้องตนเองบ้างด้วยการโพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์อย่างที่ถูกสื่อนำเสนอ
สิ่งที่ถูกตำหนิว่าตนเองเสียมารยาท แท้จริงแล้วไม่เคยพูดเลยด้วยซ้ำว่าในห้องประชุม MOU. เกิดอะไรขึ้นบ้าง พรรคเพื่อไทยแก้อะไรไปบ้าง แต่กลับมากล่าวหาว่าตนเอง นำข้อมูลต่าง ๆ มาใส่เพิ่มแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของพรรคเพื่อไทยล้วน ๆ ตนเองต้องเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ด้วยซ้ำ เพราะมันเกิดความขัดแย้งและมีความพยายามจะถอนตัวไม่เซ็น MOU. อยู่ตลอดเวลา ส่วนรายละเอียดที่พรรคเพื่อไทยขอแก้ไขมีอะไรบ้าง ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ชี้แจงเองตนจะไม่เสียมารยาทเอาข้อมูลในห้องประชุมออกมาเผยแพร่
พร้อมขอผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลอย่าเพิ่งนำทัวร์มาลงตนเอง ขอให้เข้าใจว่า เรื่องเกิดขึ้นในห้องประชุมก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ยืนยันว่าที่ตนเองออกมา พูดก็เพราะความบริสุทธิ์ใจและต้องการทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ส่วนปัญหาการแย่งชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยนั้น น.ต. ศิธา ยืนยัน ไม่ว่าใครจะได้เป็นตำแหน่งนี้ตนเองก็เชียร์ทั้งหมดแต่ต้องไม่เอาตนเข้าไปเป็นหนึ่งในสมการ ความขัดแย้ง หรือจะเอาตนเองออกจากสมการการจัดตั้งรัฐบาลก็ได้เพราะไทยสร้างไทยมีเพียงแค่ 6 เสียง คงไปสู้ 141 เสียงไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะตัดออก 6 เสียง พรรคก้าวไกลก็ยังตั้งรัฐบาลได้เพราะ 300 กว่าเสียงที่เหลือก็มีเสถียรภาพมีความแข็งแกร่ง ย้ำว่าไทยสร้างไทยพร้อมจะสนับสนุนแม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาลด้วยก็ตาม
ข้อความในทวิตเตอร์ที่ตนเองโพสต์ อีกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นเพียงแค่ต้องการตั้งคำถามว่าการแย่งชิงตำแหน่งนี้กันเอง เสียมารยาทหรือไม่เมื่อเทียบกับกรณีของตนเองที่ถูกกล่าวหาว่าออกมาพูดจนเสียมารยาท ทั้งที่ตนพูดในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่สงสัย และต้องการให้สองพรรคจับมือกันอย่างเหนียวแน่น
หากเพื่อไทยยืนยันอยากเป็นประธานสภา เพื่อไทยก็ไปตกลงกับก้าวไกลเอาเอง อย่าเอาตนเองไปต่อรอง เพื่อบีบกับก้าวไกล ให้เปรียบเทียบความ สำคัญระหว่าง 6 เสียง กับ 141 เสียง ดังนั้นอย่าใช้ผมเป็นแพะ
พร้อมยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไม่ได้ต่อว่าอะไร แต่ทราบว่ามีการฝากคุณหญิง ให้มาอบรมตน รวมถึงยังไปกดดันพรรคก้าวไกล ยืนยันไม่ได้อยากให้แตกกัน
