สมเด็จพระสังฆราช ขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นคำสอน “จงเห็นการทะเลาะวิวาท เป็นเหตุแห่งภัย”

สมเด็จพระสังฆราช ขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นคำสอน “จงเห็นการทะเลาะวิวาท เป็นเหตุแห่งภัย”

View icon 173
วันที่ 26 พ.ค. 2566 | 12.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สมเด็จพระสังฆราช ขอให้ทุกฝ่ายน้อมนำคำสอนของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแนวทางปฏิบัติกิจการงาน ความว่า “จงเห็นการทะเลาะวิวาทกันว่าเป็นเหตุแห่งภัย จงเห็นการไม่วิวาทกันว่าเป็นความปลอดภัย แล้วพึงเป็นผู้พร้อมเพรียง มีความประนีประนอมกันเถิด”

สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้โพสต์ข้อความ ว่า  เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นำคณะสงฆ์พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เฝ้าถวายสักการะและกราบทูลรายงานการปฏิบัติงาน

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความว่า
“ขออนุโมทนาสาธุการ ที่ท่านทั้งหลายได้มารายงานการปฏิบัติงาน และขอแสดงความชื่นชมในกุศลจริยา ที่ช่วยกันเสริมสร้างสันติสุขในสังคม กับทั้งอดทนพากเพียรประกอบกรณียกิจ เพื่อความยั่งยืนของพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินไทย”

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระมหากรุณาประทานพระโอวาทไว้สำหรับเราทั้งหลายผู้เป็นพุทธบริษัทว่า ‘ท่านทั้งหลายจงเห็นการทะเลาะวิวาทกันว่าเป็นเหตุแห่งภัย และจงเห็นการไม่วิวาทกันว่าเป็นความปลอดภัย แล้วพึงเป็นผู้พร้อมเพรียง มีความประนีประนอมกันเถิด’

ขอทุกท่านจงน้อมนำพระบรมพุทโธวาทนี้ ไปเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติตน และบริหารภารกิจการงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตหรือเล็กน้อย โดยยึดมั่นในสันติธรรม ขันติธรรม เมตตาธรรม และสามัคคีธรรม อันจักเป็นเหตุให้เกิดความปลอดภัยขึ้นได้ในสังคมทุกระดับ

ขอให้ท่านช่วยกันเสริมสร้างความสามัคคีกลมเกลียวกันในหมู่คณะใกล้ตัวท่านให้ได้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัวเดียวกัน ในวัดเดียวกัน ในหมู่พุทธบริษัทในชุมชนเดียวกัน จากนั้นก็ค่อยแผ่ขยายไปยังหมู่เพื่อนร่วมชาติแม้ต่างศาสนา และหมู่เพื่อนมนุษย์ผู้เป็นคนต่างชาติต่างศาสนาโดยทั่วหน้า
อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านยังทำให้บ้านของท่านเอง หรือชุมชนใกล้ตัวท่านเองไม่อาจเป็นแดนปลอดภัย เพราะความประนีประนอมกันโดยสามัคคีธรรมได้ ก็ยากที่จะทำให้ภูมิภาคและประเทศชาติในภาพรวม สามารถประนีประนอมกันด้วยสามัคคีธรรมได้สำเร็จ
ในนามคณะสงฆ์ จึงขอถวายกำลังใจและขอเป็นกำลังใจ ให้พุทธบริษัทในจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริบูรณ์ด้วยสรรพกำลัง ที่จะเชิดชูสันติธรรม และสามัคคีธรรมในสังคม เพื่อให้เกิดความเกษมปราศภัย ขอให้ช่วยกันพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา ให้สถาพรอยู่คู่ชาติไทยไม่มีวันเสื่อมสูญ และขออำนวยพรให้ทุกท่าน จงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย บรรลุถึงความงอกงามในพระสัทธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป เทอญ.”