"รังสิมันต์" ยังเชื่อใจ พท.ไม่แตกคอพรรคร่วม ระบุ ถ้า “ก้าวไกล” ได้คะแนนอันดับสอง ไม่ขอเก้าอี้ ปธ.สภาฯ

"รังสิมันต์" ยังเชื่อใจ พท.ไม่แตกคอพรรคร่วม ระบุ ถ้า “ก้าวไกล” ได้คะแนนอันดับสอง ไม่ขอเก้าอี้ ปธ.สภาฯ

View icon 172
วันที่ 26 พ.ค. 2566 | 12.54 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“รังสิมันต์” ยังเชื่อใจ “เพื่อไทย” ไม่แตกคอพรรคร่วม หลังดรามาแย่งเก้าอี้ “ประธานสภาฯ” ลั่น “ก้าวไกล” ไม่ทำร้าย-เอาเปรียบใคร  ยันก้าวไกลไม่ได้กินรวบทุกตำแหน่ง

ความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล หลังเกิดดรามาแย่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์วันนี้ (26 พ.ค.66) ถึงประเด็นดังกล่าวโดยระบุว่า ตอนนี้มีหลายความเห็น แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลเชื่อมั่นว่า การมีตำแหน่งประธานสภาฯ จะเกิดประโยชน์หากเป็นคนของพรรคก้าวไกล และหากให้พูดตรงไปตรงมา พรรคก้าวไกลก็มีหลายวาระที่ต้องการผลักดัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องของพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของสังคม เช่น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การทำให้กฎหมายเปลี่ยนประเทศสามารถดำเนินการได้ รวมถึงกลไกที่จะทำให้โครงสร้างของสภามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเรื่องงบประมาณของสำนักงบประมาณของรัฐสภา เราอยากจะยกระดับ นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังมีโครงการที่จะผลักดันสภาเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลไกที่อยากทำให้การเมืองเปลี่ยนไป พรรคก้าวไกลยืนยันว่า แม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่ก็สามารถทำได้

“ถ้าเราดูตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นคนที่มีอายุเท่านั้น เป็น สส.มาหลายสมัย เราไม่เห็นด้วย ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อม การเตรียมการทำงานที่จะทำให้ออกมามีคุณภาพมากที่สุด แต่ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนก็แล้วแต่ ต้องเป็นคนที่มีความหลากหลายรุ่น สิ่งสำคัญในส่วนของสภาฯ มีข้อบังคับและกฎเกณฑ์กติกาอยู่ ประธานสภาฯ ต้องทำให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น” นายรังสิมันต์ ระบุ

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า ประธานสภาฯ ไม่ได้มีแค่การประชุม ดังนั้นพรรคก้าวไกลมีแผนที่ชัดเจน สามารถตอบคำถามพี่น้องประชาชนได้ว่า ถ้าได้ตำแหน่งประธานสภาฯ พรรคจะทำอะไรเพื่อพี่น้องประชาชน และทำอย่างไรให้ประเทศนี้เปลี่ยนแปลง

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีการโพสต์ทางโซเชียล ว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่วาระของพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง จะส่งผลกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาล และความเชื่อใจต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายรังสิมันต์ ระบุว่า เรื่องความเชื่อใจเราเชื่ออยู่แล้วในตัวพรรคร่วมฯ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ร่วมกัน ขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ต้องการทำร้ายใครหรือเอาเปรียบใคร และที่ทำไปทั้งหมดต้องการทำเพื่อความเปลี่ยนแปลง ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบได้ และหากไม่ได้ทำประชาชนก็ลงโทษพรรคได้ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นกลไกของวิถีประชาธิปไตย พร้อมระบุว่า “เราต้องการเข้าไปเปลี่ยนแปลง เรามีตำแหน่งไม่ใช่เพื่อตำแหน่ง แต่มีตำแหน่งเพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลง”

ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันหนักแน่นหรือไม่ว่า หลักการตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องมาจากพรรคอันดับ 1 นายรังสิมันต์ ตอบว่า เรามองหลายมิติ ถ้าพรรคก้าวไกลได้ สส. 141 คน แล้วเพื่อไทยได้กลับกันเป็น สส. 151 ที่นั่ง เราพรรคก้าวไกลจะไม่บอกเลยว่าจะขอตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะเราเข้าใจดีว่าพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็จะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ด้วย และตนคิดว่าถึงที่สุดอายุหรือสมัย สส.ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด พรรคก้าวไกลจำนวนสมัยที่ได้เป็น สส.อาจจะไม่เท่าพรรคการเมืองอื่นแต่ก็สามารถทำได้
  
ส่วนเก้าอี้ประธานสภาฯ จะเป็นตัวการันตีความเป็นรัฐบาลของพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ เนื่องจากหลายคนกังวลว่า หากเสียเก้าอี้ประธานสภาฯ ไป ก้าวไกลจะถูกลอยแพ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรายังไม่คิดถึงขั้นนั้น บนพื้นฐานที่ทำงานอยู่ทุกคนที่เข้ามา เราให้ความไว้วางใจอย่างเต็มที่ เพราะท้ายที่สุดต้องคุยกันหลายเรื่อง พร้อมยืนยันว่าข้อกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกล กินรวบทุกตำแหน่ง ไม่เป็นความจริง