บ้านเรือนประชาชนเกือบทั้งหมดบนเกาะกวม ของสหรัฐฯ ยังคงไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ หลังซูเปอร์ไต้ฝุ่นมาวาร์ พัดถล่ม ขณะที่ โนอา เตือนคาดปีนี้แอตแลนติกจะเผชิญเฮอริเคนราว 9 ลูก
บ้านเรือนประชาชนและร้านค้าราว 51,000 หลัง ซึ่งนับเป็นบ้านเรือนเกือบทั้งหมดบนเกาะกวม ของสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ยังคงไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ หลังซูเปอร์ไต้ฝุ่นมาวาร์ (Mawar) ซึ่งมีความเร็วลมมากกว่า 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มอย่างหนัก ส่งผลให้มีฝนตกหนักและกระแสแรง ทำให้มีน้ำท่วมในบางพื้นที่ ต้นไม้และเสาไฟฟ้าจำนวนมากหักโค่น แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บร้ายแรงหรือเสียชีวิต ขณะที่ ทางการท้องถิ่นประกาศเตือนให้ประชาชนต้มน้ำก่อนบริโภคเพื่อความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งมือกู้ระบบไฟฟ้าให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ ส่วนประชาชนราว 980 คน ยังคงต้องพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว
องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ หรือ โนอา (NOAA) ออกมาเตือนว่า ช่วงฤดูเฮอริเคนแอตแลนติกปีนี้ ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน จะมีพายุพัดถล่มราว 12 ถึง 17 ลูก ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 5 ถึง 9 ลูก อาจมีความรุนแรงในระดับพายุเฮอริเคน และราว 1 ถึง 4 ลูก อาจเป็นเฮอริเคนที่มีความรุนแรง ขณะเดียวกัน มีโอกาสราว 93 เปอร์เซ็นต์ ที่จะต้องเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ในระหว่างแกนกลางของฤดูเฮอริเคน
