ตำรวจอยุธยา รวบผัวเมีย สวมรอยเป็นลูกค้า หลอกเอาเลขพัสดุไปรับพระเครื่อง ราคานับล้านของเซียนพระชื่อดัง

ตำรวจอยุธยา รวบผัวเมีย สวมรอยเป็นลูกค้า หลอกเอาเลขพัสดุไปรับพระเครื่อง ราคานับล้านของเซียนพระชื่อดัง

View icon 238
วันที่ 26 พ.ค. 2566 | 15.00 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
ตำรวจอยุธยา รวบผัวเมีย สวมรอยเป็นลูกค้า หลอกเอาเลขพัสดุไปรับพระเครื่อง”หลวงปู่ทิม” ราคานับล้าน ของเซียนพระชื่อดัง ก่อนส่งลูกค้าตังจริง เตือนให้ระวัง!คนร้ายจ้องดูความเคลื่อนไหวคนขายและลูกค้า ระหว่างไลฟ์ขายผ่านออนไลน์


ตำรวจอยุธยา รวบผัวเมีย สวมรอยเป็นลูกค้า หลอกเอาเลขพัสดุไปรับพระเครื่อง ราคานับล้าน(26 พฤษภาคม 2566)  ที่ ห้องประชุม สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  พล.ต.ต. ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา   พ.ต.อ.พัทธนันท์ ทรงสมถวิล ผกก.สภ.บางปะอิน  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางปะอิน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม  นายสหรัฐ หรือ แป๊ะ อายุ 28 ปี  นางสาวสุรีรัตน์ หรือ นุ่น    ที่สวมรอย ไปรับพระเครื่อง พระผงหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่  จำนวน 2 องค์ รวมมูลค่า 930,000 บาท จากกบริษัทรับส่งพัสดุ  ก่อนที่จะถึงผู้รับตัวจริง

พล.ต.ต. ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา    กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงประมาณ เดือนเมษายน   นายธนกฤต  กัญจนทัต อายุ42 ปี  เซียนพระชื่อดัง แอดมิน เพจเฟซบุ๊ค “หมีพูห์ ปู่ทิม สายตรงหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่”ได้ไลฟ์ขายพระเครื่องผ่านเพจดังกล่าว มีลูกค้าเข้ามาบูชาเป็นจำนวนมาก โดยได้มีการไลฟให้เช่าบูชาพระเครื่องหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่  นายไพศาล  ทิพยมงคล อายุ 54 ปี  ซึ่งเป็นลูกค้าของเพจ มีความสนใจพระเครื่อง และตกลงซื้อขาย กันในราคาสูง  เมื่อถึงเวลาจัดส่งให้กับลูกค้า ได้นำพระเครื่องใส่กล่องพัสดุฝากส่ง ให้นายไพศาล  ลูกค้า โดยฝากส่งกับบริษัทรับส่งพัสดุชื่อดัง ภายในเขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร  โดย กลุ่มมิจฉาชีพ ได้ แฝงตัวดูการไลฟ์อยู่ และรู้ว่าพระเครื่อง มีการปิดการเช่าบูชา ในราคาสูง กลุ่มมิจฉาชีพ จึงได้ อ้างตัวเป็นนายไพศาล ลูกค้า หลอกถามเอาเลขพัสดุ  จากนาย ธนกฤต  และค้นหาข้อมูลส่วนตัวของ นายไพศาล ลูกค้าผู้เช่าพระจากเฟซบุ๊ก  เมื่อได้เลขพัสดุ  มิจฉาชีพ ได้ว่าจ้างให้คนขับรถรับจ้างไปดักรับกล่องพัสดุ จากบริษัทรับส่งสินค้า ภายในเขตอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เฝ้าแกะรอยเส้นทาง ของ มิจฉาชีพ จนสามารถไปติดตามจับกุมตัว ติดตามจับกุมตัว  นายสหรัฐ หรือ แป๊ะ อายุ 28 ปี นางสาวสุรีรัตน์ หรือ นุ่น ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน พร้อมกับตรวจค้นที่บ้านพัก ใน จ.ราชบุรี สามารถติดตามของกลางเป็นพระเครื่อง หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ คืนมาได้  ในการสืบสวนในขณะนี้เราพบผู้กระทำความผิดเพียง 2 สามีภรรยา จึงได้ตั้งข้อกล่าวหา ฉ้อโกงทรัพย์ โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ส่วนผู้ที่รับจ้างไปรับสินค้า สืบสวนสอบสวนแล้วไม่พบว่ากระทำความผิดเพราะไม่ทราบ ได้รับว่าจ้างให้ไปรับสินค้ามาเท่านั้น  ส่วนพนักงานของบริษัทรับส่งพัสดุ ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา ถูกหลอกจนหลงเชื่อมอบพัสดุให้ไป
พล.ต.ต. ชยานนท์ กล่าวว่า เพิ่มเติมอีกว่า  จาการสืบสวนขยายผลทราบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกัน มาแล้วหลายคดี แต่อาจจะเปลี่ยนวิธีการในการหลอกลวงผู้เสียหายและ บริษัทขนส่ง จนหลงเชื่อ   ตามรายงานข่าวเมื่อปี 2564 แต่ได้รับโทษเพียงไม่นาน และเมื่อออกจากเรือนจำมา ก็กระทำความผิดซ้ำอีก

ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนที่มีการขายสินค้าทุกประเภท โดยเฉพาะที่มีมูลค่าราคาสูง  ให้ระวังมิจฉาชีพ เนื่องจากวิธีการก่อเหตุ และรูปแบบการกระทำความผิดนี้กำลังระบาดไปทั่วประเทศ จากหลายกลุ่มมิจฉาชีพซึ่งใช้วิธีการคล้ายคลึงกัน โดยการไปดักเอาสินค้ามูลค่าสูงจากปลายทาง แทนผู้รับสินค้าหรือพัสดุตัวจริง ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการเตือนภัยให้ทราบ และระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพในลักษณะนี้

นายธนกฤต  กัญจนทัต อายุ42 ปี  เซียนพระชื่อดัง  กล่าวว่าตนเอง ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทึ่ช่วยติดตามคดีนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเห็นการทำงานของตำรวจที่ตั้งใจสืบสวนคดีนี้อย่างมาก ขอชื่นชมเพราะพฤติการณ์ของผู้ต้องหา มีวิธีการที่แยบยลมากหลอกจนหลงเชื่อ ตั้งแต่ โทรศัพท์อ้างตัวเป็นลูกค้า  มาขอเลขพัสดุ ตนเองเคยเห็นข่าวอยู่แล้วจึงไม่ให้ไป จากนั้นผู้ต้องหา ได้ปลอมไลน์ของลูกค้า เข้ามาทักพูดคุยกับตนเอง จนหลงเชื่อบอกเลขพัสดุไป  โดยอ้างว่าวันที่พัสดุถึง อาจจะไม่อยู่บ้านจะไปขอรับพัสดุแทนที่ปลายทาง ผู้ต้องหายังได้มีการว่าจ้าง รถรับจ้างไปรับพัสดุที่  บริษัทรับส่งพัสดุ ปลายทาง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา  จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการซื้อขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ที่มีมูลค่ามาก  ส่งสินค้าผ่านบริษัทขนส่งสินค้า เลขพัสดุถือว่าสำคัญ

ทางด้านนาย ทิพยมงคล อายุ 54 ปี   ผู้เช่าพระเครื่อง  เปิดเผยว่า ตนเองเช่าหาวัตถุมงคลมาหลายปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้  ส่วนตัวเชื่อมั่นกับทางเพจนี้อยู่แล้ว  ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก ที่ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายได้เพราะถ้าหากปล่อยคนร้ายไว้ต้องไปก่อเหตุกับผู้เสียหายรายอื่นอีก

นางสาวฉัตรแก้ว พูลผล  ทนายความของทางเพจ “หมีพูห์ ปู่ทิม สายตรงหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ กล่าวว่า  ผู้ต้องหา  จะค้นหาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า และทางเพจ   เพื่อใช้ในการยืนยัน   ข้อมูลส่วนตัว จะโทรไปหลอกลวง เอาเลขพัสดุทั้งจากลูกค้าและทางเพจ  เมื่อได้เลขพัสดุ จะเช็คว่าเลขพัสดุถึงปลายทางเมื่อไหร่ จะมีการว่าจ้างบุคคลอื่นให้ไปรับพัสดุ  ทางบริษัทขนส่งเองก็หละหลวมหลงเชื่อ ส่งมอบพัสดุให้ ซึ่งปกติการรับพัสดุจะต้องมีการโทร และมีการเซ็นรับ จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง