วันนี้ (26 พ.ค.66) ความคืบหน้าภายหลัง น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ "ทนายพัช" ทนายความที่รับผิดชอบดูแลคดีให้กับ นางแอม ผู้ต้องหาคดีวางยาพิษฆาตกรรมและชิงทรัพย์ พร้อมนายไชยา คุ้มอ่ำ ทนายความที่ปรึกษากฎหมายของทนายพัช เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาซ่อนเร้นทำลายหลักฐานตามหมายเรียก โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ในการสอบปากคำนั้น
ล่าสุด ทนายพัช ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของ น.ส.ก้อย ผู้เสียชีวิตในคดีนี้ และการทำหน้าที่ทนายความที่ผ่านมา ก็ทำโดยสุจริต โปร่งใส ไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆ ที่เป็นการชี้นำให้ลูกความกระทำผิดกฎหมาย และไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงถูกผู้ต้องหาคนอื่นซัดทอดว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนเองยังเป็นทนายความคดีหลักให้กับ แอม และไม่ขัดข้องที่จะมีทนายความคนอื่นร่วมว่าความด้วย ส่วนประเด็นเรื่องการฟ้องพิธีกร สื่อมวลชน และตำรวจ อยู่ระหว่างเตรียมการ โดยสัปดาห์หน้าจะเข้าพบลูกความอีกครั้ง เพื่อสอบถามแนวทางการดำเนินคดีเพิ่มเติม
ด้าน ทนายไชยา เชื่อว่า การออกหมายเรียก ทนายพัช ให้มารับทราบข้อกล่าวหาเป็นการเตะตัดขา ที่ต้องการตัดสิทธิ์ไม่ให้ ทนายพัชเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ จึงอยากขอโอกาสให้ ทนายพัช เข้าไปช่วยเหลือลูกความอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของลูกความที่จะเลือกทนายเข้ามาช่วยเหลือคดีได้
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ ทนายพัช ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้การแย้งในประเด็นต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนสงสัย แต่ยังไม่สามารถหักล้างผลการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ในคดีนี้ได้ ยืนยันว่าพยานหลักฐานที่ใช้ดำเนินคดีกับทนายพัช กระทำผิดชัดเจน และไม่ได้เป็นการเตะตัดขา
ส่วนคดี “แอม” เชื่อว่า "แอม" จะยังไม่ได้รับการประกันตัว แต่หากถูกปล่อยตัวในคดีใดคดีหนึ่ง ก็ยังมีอีกหลายคดีที่รออายัดตัวดำเนินคดีต่อ
สำหรับการสอบปากคำ "แอม" ในทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งผู้ต้องหาให้การพลิกไปพลิกมา มองว่าเป็นผลเสียต่อตัวผู้ต้องหาเอง เพราะจะทำให้คำให้การเสียน้ำหนัก และขาดความน่าเชื่อถือ