กัญชา วันนี้ (26 พ.ค.66) อาจารย์เดชา ศิริภัทร ผู้ก่อตั้งมูลนิธิข้าวขวัญ จังหวัดสุพรรณบุรี ปราชญ์ชาวนา และหมอพื้นบ้าน เป็นหนึ่งในผู้ต่อสู้เพื่อให้กัญชาทางการแพทย์ถูกกฎหมาย เปิดเผยว่า ไม่ใช่นักการเมืองและไม่ได้เกี่ยวกับใคร แต่เป็นหมอพื้นบ้านที่ใช้กัญชารักษาโรค และเป็นกลุ่มที่รณรงค์เอากัญชาออกจากยาเสพติด ให้คนไทยจดแจ้งปลูกและใช้ประโยชน์ทางการแพทย์จากกัญชาได้ เชื่อว่าจนถึงขณะนี้มีคนที่เข้าไปแจ้งใน แอปฯปลูกกัญชาเกิน 40 ล้านคน หรือเกินครึ่งประเทศ นี่เฉพาะที่แจ้ง แต่ที่ไม่แจ้งอีกจำนวนมาก
“คนค่อนประเทศเห็นว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติดก็ปลูกกัน หลังจากที่กัญชาออกจากยาเสพติดเกือบปีมาแล้วไม่เห็นว่ามีข่าวอะไรที่เป็นโทษจากกัญชา ไม่มีคนตายจากกัญชา ที่ตายเพราะเรื่องอื่นไม่ใช่กัญชา เมื่อเอาไปเปรียบกับเหล้า หรือสุราก้าวหน้าที่ลงนาม MOU ให้ส่งเสริมการเข้าถึงสุราได้มากขึ้น ถามว่า 1 ปีที่ผ่านมามีคนตายจากสุรากี่คน ทางตรงคือโรคตับแข็ง โรคหัวใจ ทางอ้อมก็คือเมาแล้วขับ ช่วงเทศกาล สงกรานต์ ปีใหม่ มีคนตายเท่าไหร่ ทะเลาะวิวาท ฆาตกรรม นั่นคือเหล้า”
อาจารย์เดชา ระบุว่า กัญชาไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่คุณก็จะเอากัญชาไปเข้ายาเสพติด ส่วนเหล้ากลับปล่อยให้ขายกัน ยากัญชาตำรับหมอเดชา กระทรวงสาธารณสุข นำไปวิจัยตั้งแต่ปี 62 วิจัยไปแล้วกว่า 180,000 คน รักษาได้ผลเกิน 80 % ทั้งโรคมะเร็ง โรคพาร์กินสัน และโรคไมเกรน ปวดหัวข้างเดียว
“ปัญหาค่าครองชีพ ปัญหาปากท้องเยอะแยะไม่ทำ ผมเรียกร้องให้เอากัญชาออกจากยาเสพติด ตอนปี 62 คุณพิธา (นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์) ก็ยังมาเดินกับผม เขายังพูดในที่สาธารณะเลยว่ากัญชาดีรักษาโรคได้เยอะแยะ ไม่มีอันตราย ควรส่งเสริมสันทนาการด้วยซ้ำ คุณพูดชัดๆ ตอนคุณเป็นผู้สมัคร สส.อนาคตใหม่ ปี 2562 ตอนนี้คุณจะเป็นนายกรัฐมนตรี คุณมาพูดกลับคำ ว่ากัญชามีโทษต้องเอาเข้ายาเสพติด คนเดียวกัน พูดแบบนี้ได้อย่างไร คุณต้องเอาเหล้าไปควบคุมให้ดี ถ้าคุณกลัวก็ออกหมายมาควบคุมเหมือนบุหรี่” อาจารย์เดชา กล่าว