หญิงสาวอายุ 19 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา เพราะตำรวจมีข้อมูลว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ นายวัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" นักสนุกเกอร์ชื่อดัง โอนเงินเข้าไปในบัญชีที่มีชื่อของหญิงสาวคนนี้ หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ยืนยันตัวตน ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และคดีฟอกเงิน จนเป็นเหตุให้สูญเงินไปกว่า 3.2 ล้านบาท เดินทางเข้าให้ปากคำและรับทราบข้อหาแล้ว
พันตำรวจเอก เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า ตามข้อมูลพบว่าบัญชีม้าแถวที่ 1 มีด้วยกัน 2 คน คนหนึ่งถูกออกหมายจับ เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเจตนาหลบหนี ส่วนอีกคน คือ นางสาวสุดารัตน์ อายุ 19 ปี ตัดสินใจเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ จากการสอบสวนเจ้าตัวได้ให้การภาคเสธ รับว่ามีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินจากผู้เสียหายมาจริง แต่บัญชีดังกล่าวเกิดจากเพื่อนที่ชื่อ นางสาวรัชนีกร มาหลอกขอยืมบัตรประชาชนไป อ้างว่าจะนำไปใช้สมัครเล่นเกม ก่อนจะมาทราบภายหลังว่า นำไปใช้เปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงผู้เสียหาย และไม่ได้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเงินของ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" ได้ถูกโอนเงินผ่านบัญชีม้าหลายบัญชีรวมทั้งหมด 7 แถว ก่อนที่คนร้ายจะโอนเงินจากบัญชีม้าแถวที่ 7 ไปลงทุนกับบริษัทซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล 2 แห่ง โดยผู้ต้องหาซึ่งเป็นบัญชีม้าแถวที่ 5-7 สืบสวนพบว่าในนั้นเป็นกลุ่มบุคคลต่างด้าว 7 คน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบบุคคล ส่วนเรื่องการพิสูจน์ทราบการทำธุรกรรมทางการเงิน เบื้องต้น ได้ประสานขอข้อมูลการเปิดบัญชีธนาคารมาตรวจสอบ รวมถึงขอข้อมูลบริษัทซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลทั้ง 2 แห่ง มาตรวจสอบด้วย ส่วนผู้ที่ถูกออกหมายเรียก และถูกพาดพิงถึง จะมีการออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 3 คน ส่วนเจ้าของบัญชีธนาคารอีก 10 ราย ซึ่งเป็นบัญชีม้าแถวที่ 2-4 ตำรวจได้นัดให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้