ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจรจากับประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน เพื่อขยายเพดานหนี้สำเร็จ รอดจากการผิดชำระหนี้ได้อย่างหวุดหวิด หลังจากทั้งสองฝ่ายมีการเจรจากันมานานนับเดือน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากการหารือทางโทรศัพท์กับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน เป็นเวลาราว 90 นาที ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็สามารถตกลงขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ได้สำเร็จ ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่มีเงินสดเพื่อชำระหนี้ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเดิมเพดานหนี้สหรัฐฯ อยู่ที่ 31.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นการยุติการเจรจาที่หาทางออกไม่ได้มานานนับเดือน อย่างไรก็ตาม การขยายเพดานหนี้ยังต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
สำหรับข้อตกลงดังกล่าวเป็นการขยายเพดานหนี้ออกอีก 2 ปี แต่ในระหว่างนั้นรัฐบาลจะต้องมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกคืนงบประมาณกองทุนโควิดที่ยังไม่ได้มีการใช้จ่าย, การเพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการอนุญาตโครงการต่างพลังงานบางโครงการ รวมทั้งการเพิ่มข้อกำหนดสำหรับโครงการสวัสดิการด้านอาหารสำหรับชาวอเมริกันที่ยากจน
ทั้งนี้ ปกติแล้วรัฐบาลสหรัฐฯ จะกำหนดเพดานการกู้ยืมเงิน อยู่ที่ราว 120 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตทางเศรษฐกิจประจำปี (annual economic output) ของประเทศ ซึ่งหากรัฐบาลสหรัฐฯ ผิดชำระหนี้ก็อาจทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและเกิดแรงกระเพื่อมไปยังตลาดการเงินทั่วโลก