เปิดคลิป ส่วยรถบรรทุก ปัญหาที่รอการแก้ไข

ข่าวภาคค่ำ - พูดกันเยอะเกี่ยวกับปัญหาส่วยรถบรรทุก วันนี้เราจะเปิดคลิปเสียงคำยืนยันจากคนในอาชีพนี้ว่ามีอยู่จริง เขาหาผลประโยชน์กันแบบไหน ส่งผลกระทบอย่างไร เราจะไปไล่เรียงประเด็นกัน แต่ก่อนอื่นไปฟังคลิปเสียงกันก่อน

เปิดคลิป ส่วยรถบรรทุก ปัญหาที่รอการแก้ไข
เป็นคลิปเสียงที่มีผู้ร้องเรียนไปยังสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ตอกย้ำว่า ส่วยรถบรรทุกมีอยู่จริง ซึ่งนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ฯ เตรียมนำหลักฐานและข้อมูลทั้งหมด ส่งให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้

จากข้อมูลของสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ยังพบว่า มีสติกเกอร์ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ในการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐของบรรดารถบรรทุกที่ทำผิดกฎหมาย มากกว่า 60 รูปแบบ แต่ละป้ายจะกินพื้นที่ต่างกัน โดยเป็นที่รู้กันว่า สติกเกอร์รูปแบบไหน ใช้ในพื้นที่ใด ถ้าแบกน้ำหนักแบบไม่อั้น สนนราคาสำหรับรถบรรทุกสิบคันต่อหนึ่งเดือน จะอยู่ที่ 25,000-27,000 บาท

เปิดวงจร ส่วยรถบรรทุก ผลประโยชน์ 12,000 ล้านบาท/ปี
นายอภิชาติ ให้ข้อมูลด้วยว่า ในแต่ละปี พบรถบรรทุกจ่ายส่วยประมาณ 120,000 คัน หรือคิดเป็นมูลค่าราคา 1,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 12,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นมูลค่ามหาศาล ขณะที่ภาครัฐต้องสูญเสียงบประมาณทั้งในความดูแลของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบทและท้องถิ่น มากกว่า 100,000 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมถนน

ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยืนยันเดินหน้าตรวจสอบสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุกต่อ โดยไม่ขอรับเคลียร์จากใครทั้งสิ้น พร้อมเปิดข้อมูลผ่านไลน์ว่า มีการสื่อสารให้แกะสติกเกอร์รูปกระต่ายออก พร้อมตั้งคำถามว่า แล้วรุ่นกังฟูแพนด้า กับไจแอ้นท์ จะแกะออกด้วยหรือไม่

ทีมข่าวของเราสอบถามไปยังผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่า มีรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากกำลังตำรวจมีน้อย ก็พยายามกวดขันแล้ว ส่วนเรื่องส่วยสติกเกอร์ ยังไม่มีข้อมูล หรือ พยานหลักฐานที่จะเอาผิดกับใครได้ แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หากพบมีใครทำผิด ก็จะลงโทษตามกฎหมาย

สำหรับข้อมูลที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เตรียมนำไปมอบให้กับพรรคก้าวไกลนั้น ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เชื่อว่า เป็นข้อมูลเดียวกับที่ทางสหพันธ์ฯ ทำงานร่วมกับตำรวจอยู่ และเชื่อว่าหากพรรคก้าวไกลเข้ามาแก้ไขปัญหาในระดับนโยบายได้ ก็น่าจะเห็นทิศทางในการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น