สนามข่าว 7 สี - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันตำรวจมีหลักฐาน นักข่าวสาวจีนแอบอ้างชื่อไปเรียกรับเงินจากแก๊งอุ้มบุญ ยอมรับเคยมาช่วยงานล่ามแปลภาษาไทยจีน และยังเป็นคนให้เบาะแสเรื่องแก๊งอุ้มบุญ แต่หากแอบอ้างเรียกรับเงิน ก็ต้องดำเนินคดี
หลังโดนตำรวจสืบสวน จับกุมที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และควบคุมตัวส่ง สน.ลุมพินี สอบสวนนานหลายชั่วโมง ค่ำเมื่อวานนี้ นักข่าวสาวจีนก็ได้รับการประกันตัว แต่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ตกดึกนักข่าวสาวจีนรายนี้ ก็ได้ส่งจดหมายให้สื่อมวลชนไทยจำนวนมาก โดยเนื้อหาภายในจดหมายระบุว่า เธอถูกโจมตีล้างแค้นโดยกลุ่มคนจีนเทา เพราะที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือตำรวจไทยมาตลอด จนสามารถจับกุมกลุ่มคนจีนเทาได้หลายคดี ทั้งยังยืนยันด้วยว่าไม่รู้จัก นางสาวนวพร หรืออาโจ เป็นการส่วนตัว รู้แค่ว่าเป็นเจ้าแม่อาชญากรรมจีนในไทย มีพฤติกรรมผิดกฎหมาย จากข้อมูลที่ส่งมาหลังบ้านสื่อ ซึ่งเป็นช่องทางของเธอ อีกทั้งยังบอกด้วยว่า ตลอด 11 ปีที่มุ่งทำสื่อภาษาจีน ก็เพื่อเผยแพร่สิ่งดี ๆ สู่นักท่องเที่ยวจีน
ด้านพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานและเส้นทางการเงิน ตำรวจจึงได้ขออนุมัติหมายจับ ซึ่งในส่วนของนางสาวนวพร ก็โดนหมายจับไป 2 หมายจับ ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอถอดสัญชาติกับกระทรวงมหาดไทย
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังบอกด้วยว่า นักข่าวรายนี้มีสัญชาติจีน อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 30 ปี และภายหลังที่ได้เข้ามาช่วยเหลือเป็นล่ามภาษากลุ่มคนจีน ที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย เคยได้รับการไว้วางใจแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็กสตรี ครอบครัว ป้องกันปรามปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565
ซึ่งภายหลังจากตกเป็นผู้ต้องหา ได้ปลดนักข่าวสาวจีนรายนี้ออกจากตำแหน่งดังกล่าว โดยปัจจุบันถือวีซ่า Thailand Privilege Card หรือวีซ่าประเภทพิเศษสำหรับนักธุรกิจ นักลงทุนชาวต่างชาติ ส่วนสามีของนักข่าวสาว ก็ถูกจับในกรณีฉ้อโกงประชาชนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยังถูกขังอยู่ที่ห้องกักของตรวจคนเข้าเมือง ส่วนที่มีรายงานว่าเธอจะเข้ามาเคลียร์ใจกับตำรวจ หลังได้รับการประกันตัว สุดท้ายก็ไม่ได้มาพบตามเวลานัดหมาย โดยอ้างว่าป่วย
การจับกุมนักข่าวสาวจีนรายนี้ เกิดขึ้นหลังจากแก๊งอุ้มบุญให้การว่าถูกเรียกเงินจากนักข่าวสาวจีนรายดังกล่าวหลายสิบล้านบาท โดยมีการให้เงินส่วนแรก 14 ล้านบาท และนักข่าวสาวจีนรายนี้ยังบังคับให้โอนส่วนที่เหลือ เพื่อแลกกับการช่วยพูดกับพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ไม่จับกุมในคดีอุ้มบุญ จนถึงขั้นจะถอนสัญชาติ
