กกต. เชิญผู้ร้อง 3 คน ชี้แจงกรณี พิธา ถือหุ้นสื่อฯ

View icon 101
วันที่ 29 พ.ค. 2566 | 11.24 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - จับตาปมร้อนเรื่องการถือครองหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ วันนี้ กกต. เชิญผู้ร้อง 3 คน เข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบว่า นายพิธาเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามการเป็น สส. หรือไม่

นับตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งทั่วไป มีผู้ทยอย ยื่นเรื่องร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นสื่อ บริษัท ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น ว่าเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเรียกร้องให้ กกต. พิจารณาโดยเร็วที่สุด ก่อนรับรองผลการเลือกตั้ง สส. โดยตลอดทั้งวันนี้ กกต. ได้เชิญผู้ร้องมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม โดยไล่เลียงตั้งแต่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 และนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มีรายงานว่า กกต. เชิญมาให้ถ้อยคำภายในสัปดาห์นี้

นายเรืองไกร เปิดเผยว่า ได้ยื่นหลักฐานเพิ่มเติม เป็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญปี 2563 ที่เคยวินิจฉัยให้นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ พ้นสมาชิกภาพการเป็น สส. จากการถือหุ้นสื่อ และขอให้ กกต. พิจารณาย้อนหลังว่า นายพิธาต้องพ้นสมาชิกภาพ สส. เช่นเดียวกับนายธัญญ์วารินหรือไม่ รวมทั้งจะต้องดำเนินคดีอาญา ตามแนวคำวินิจฉัย กกต. ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ในข้อบังคับพรรคก้าวไกล ได้กำหนดคุณสมบัติและลักษณะข้อห้ามเกี่ยวกับการถือหุ้นไว้ชัดเจน ดังนั้น หากนายพิธาขาดคุณสมบัติ ก็เท่ากับว่า ไม่สามารถดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้ และการเซ็นรับรองส่งผู้สมัคร สส. ลงรับเลือกตั้ง ก็ไม่สามารถทำได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง