วิโรจน์ ขุดไม่เลิก! ปมสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก

View icon 31
วันที่ 29 พ.ค. 2566 | 16.15 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - วิโรจน์ ยังขุดไม่เลิก ประเด็นปัญหาสติกเกอร์ส่วยที่ใช้ในการผ่านด่านของบรรดารถบรรทุก ขณะที่ นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ยืนยันเรื่องนี้โยงไปถึงนักการเมืองและบิกข้าราชการ

วิโรจน์ ขุดไม่เลิก! ปมสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก
ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ภายหลัง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาโพสต์แฉปมสติกเกอร์ส่วย Easy Pass เป็นตราสัญลักษณ์ต่าง ๆ บางอันเป็นสติกเกอร์ "เรารักประเทศไทย" ที่วิ่งได้เฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนนราคาค่าธรรมเนียมสูงถึง 25,000 บาทต่อเดือนต่อคัน เมื่อติดสติกเกอร์อันนี้แล้วสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 70-100 ตัน ไม่ต้องห่วงเรื่องผ่านตาชั่ง

ขณะที่ล่าสุด นายวิโรจน์ ได้โพสต์ภาพสติกเกอร์ "พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง" Version 6.0 หรือเดือน 6 พร้อมระบุข้อความประกอบว่า "ยังอยู่ระหว่างการเช็กบิลแท้ ๆ นี่ก็ยังอุตส่าห์กล้า Update Firmware เป็นเดือน 6 อีกหรือครับเนี่ย ผู้ผลิตสติกเกอร์ก็คงแค่ผลิตออกมาตามความเคยชินที่ทำมาเป็นสิบ ๆ ปี แต่ผมเชื่อว่า กรมทางหลวง และกองบังคับการตำรวจทางหลวง ไม่น่าจะยอมให้สติกเกอร์ดังกล่าวมาติดบนกระจกรถบรรทุก เย้ยกฎหมายอย่างแน่นอน"

นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ยังโพสต์คลิปสติกเกอร์บางอันถูกแกะออกจากรถบรรทุกแล้ว อย่างเช่น สติกเกอร์เป็นตราสัญลักษณ์กระต่าย

แฉ สติกเกอร์ส่วย โยงถึงนักการเมือง-บิกข้าราชการ
ขณะที่ นายวิชัย สว่างขจร นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ยืนยันว่า สติกเกอร์ Easy Pass พิสดาร มีมานานแล้ว และมีสติกเกอร์หลายแบบ เมื่อสติกเกอร์แบบเดิมหมดอายุ หรือถูกกวาดล้าง ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเป็นสติกเกอร์รูปแบบใหม่ โดยขบวนการเหล่านี้เป็นขบวนการที่ใหญ่มาก ตั้งแต่ระดับนักการเมือง ลงมาถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน เพราะถ้าไม่ทำเป็นขบวนการอย่างนี้จะไม่สามารถเคลียร์ค่าผ่านทางได้อย่างแน่นอน

ส่วนกลุ่มรถบรรทุกที่ติดสติกเกอร์เหล่านี้เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ต้องบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สาเหตุมาจากการแข่งขันด้านขนส่งสินค้า และการผ่อนรถบรรทุกมีต้นทุนสูงมาก บางคนได้เงินมาจากการขนส่งสินค้า ผ่อน 7 ปีก็ยังไม่หมด จึงต้องไปหาวิธีที่ผิดกฎหมาย เพื่อเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง

ตร.แจง สติกเกอร์ส่วย เป็นปัญหาปลายเหตุ
พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ตอนนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา หากพบว่ามีผู้ประกอบการรายใด หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

เบื้องต้นยอมรับว่า ปัญหาเรื่องส่วยเป็นปัญหาที่มีมานาน แต่เรื่องส่วยเป็นแค่ปัญหาปลายเหตุ เพราะต้นเหตุเกิดจากรถบรรทุกหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด ฉะนั้นต้องแก้ปัญหาในภาพรวม ตั้งแต่ต้นเหตุ แล้วค่อยไล่มาที่ปลายเหตุ อย่างปัจจุบัน กฎหมายให้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ ไม่ใช่ผู้ประกอบการรถบรรทุก เมื่อผู้ประกอบการไม่ได้รับผลกระทบ จึงเกิดการกระทำความผิดซ้ำ ๆ ดังนั้นอาจต้องพิจารณาแก้ไขกฎหมาย เช่น หากจับรถบรรทุก 1 คัน พบว่าบรรทุกหนักเกิน 20% ก็ให้สั่งยึดรถของผู้ประกอบการรายดังกล่าว