ข่าวภาคค่ำ - มีข้อกังขาการบริหารงานของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว ที่ส่อว่าอาจจะไม่โปร่งใส หลังผู้ปกครองร้องเรียนให้ตรวจสอบการเรียกเก็บเงิน 300 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าจ้างแม่บ้าน คอลัมน์หมายเลข 7 ลงพื้นที่ติดตามกับหน่วยงานตรวจสอบ
เหตุใดโรงเรียนจึงเรียกเก็บเงินค่าจ้างแม่บ้านทำความสะอาด 300 บาท จากผู้ปกครอง ทุกภาคเรียนการศึกษา เป็นคำถามแคลงใจที่กลุ่มผู้ปกครองสะท้อนผ่านที่ประชุม ระหว่างที่คอลัมน์หมายเลข 7 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดสระแก้ว โดยมีคณะครู และผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลวัดสระแก้ว เป็นคนอธิบายชี้แจง
บันทึกรายงานการประชุมผู้ปกครอง และใบเสร็จรับเงินบางส่วน เป็นหลักฐานที่ผู้บริหารโรงเรียนนำมาแสดงชี้แจง ยืนยันว่าการจัดเก็บเงินดังกล่าวทำตามระเบียบขั้นตอนราชการ และเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครอง ซึ่งโรงเรียนไม่ได้บังคับ โดยขณะนี้มีนักเรียนที่ชำระแล้วจำนวน 788 คน รวมเป็นเงิน 236,400 บาท
ขณะที่ในมุมมองของผู้ปกครอง เห็นว่า แม้จะเป็นความสมัครใจ แต่การเรียกเก็บเงินในลักษณะนี้ก็เหมือนกับถูกบังคับทางอ้อม
ความคิดเห็นนี้ยังสอดคล้องกับข้อความที่ผู้ปกครองพิมพ์สะท้อนผ่านเพจเฟซบุ๊กของ สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดสระแก้ว ซึ่งยอมรับว่าไม่สมัครใจ แต่ก็ต้องยอมจ่าย และบางรายก็เพิ่งมารู้ตอนที่เงินค่าอุปกรณ์การศึกษาโดนหักไป จากที่จะได้รับ 400 เหลือ 100 บาท และบางรายก็ไม่ได้รับใบเสร็จจากทางโรงเรียน
เรื่องนี้มีคำชี้แจงจากผู้บริหารโรงเรียนอีกครั้ง ยืนยันข้อมูลอีกด้านว่าทางโรงเรียนไม่มีนโยบายให้ครูดำเนินการในลักษณะดังกล่าว หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง
คอลัมน์หมายเลข 7 ยังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1 ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลโรงเรียน อธิบายว่า ตามระเบียบราชการแล้ว การเรี่ยไรเงิน ขอรับบริจาคจากหน่วยงาน หรือว่าผู้ปกครองโดยการสมัครใจ สามารถทำได้ แต่ต้องดำเนินการให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส และมีรูปแบบของคณะกรรมการ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบพิรุธความผิดปกติ แต่เมื่อเกิดความไม่เข้าใจในกลุ่มของผู้ปกครอง จึงได้กำชับให้โรงเรียนบริหารจัดการโดยจัดทำหลักฐานในการรับเงิน และบริหารจัดการตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมรายงานผู้ปกครองในการใช้จ่ายเงินดังกล่าวเป็นระยะ
