สนามข่าว 7 สี - หลังกระทรวงการคลัง เตรียมยกเลิกการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ จากที่เคยต่ออายุมาตรการนี้มา 7 ครั้ง ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นทันที 5 บาทต่อลิตร ในวันที่ 21 พฤษภาคม แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะจะมีการลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 5 บาททดแทน ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั๊มจะอยู่ในอัตราเดิม
เลิกอุ้มภาษีดีเซล 21 ก.ค.นี้ รอรัฐบาลใหม่ ไหวหรือไม่ ?
โดยทางฝั่งรัฐบาลให้เหตุผลที่จะไม่ต่ออายุมาตรการนี้ว่า เป็นเพราะต้องรอให้รัฐบาลใหม่มาพิจารณา เนื่องจากในขณะนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่มีอำนาจเต็ม จะทำอะไรก็ต้องส่งหนังสือขออนุญาต กกต. ประกอบกับ การยกเลิกเก็บภาษีเป็นเงิน 5 บาท ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 ผ่านมาแล้ว 7 ครั้ง ทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้แล้วกว่า 158,000 ล้านบาท จึงต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาตัดสินใจ เพราะจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของภาครัฐ
ภาคขนส่ง วอนรัฐอย่าให้สุญญากาศการเมือง ทำประชาชนเดือดร้อน
แต่ในมุมของภาคขนส่งมองตรงข้ามเลย คุณอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เห็นว่ารัฐบาลดำเนินมาตรการมาได้ตั้ง 7 ครั้ง ทำไมไม่ทำต่อ ทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าจะเกิดผลกระทบรุนแรงตามมา โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการผลิต และราคาสินค้า ซึ่งในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ จะไปยื่นหนังสือถึงรัฐบาล ให้ทบทวนการยกเลิกมาตรการลดภาษี อย่าให้สุญญากาศการเมือง มาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
หลังมีเสียงสะท้อนแสดงความเป็นห่วงเรื่องราคาดีเซลจะทะยานขึ้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็รับที่จะไปดูแลไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ โดยเห็นว่ายังมีเวลาอีกเกือบ 2 เดือนกว่าจะถึงวันที่ 21 กรกฎาคม พร้อมย้ำว่าการพิจารณาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล หลังจากนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการ
กางโครงสร้างราคาน้ำมัน จับตาลดเก็บกองทุนน้ำมัน ชดเชยภาษี
เรามาดูโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลกันหน่อย ว่าในปัจจุบันแบ่งสัดส่วนกันอย่างไร ข้อมูลที่คุณผู้ชมเห็นอยู่นี้ เป็นโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม พบว่าราคาหน้าโรงกลั่น อยู่ที่ 20.7298 บาท ภาษีเทศบาล 1.3400 บาท ภาษีสรรพสามิต 0.1340 บาท กองทุนน้ำมัน 5.430 บาท กองทุนอนุรักษ์พลังงาน 0.0500 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1.9379 บาท ค่าการตลาด 2.1667 บาท และยังมีภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 0.1517 บาท รวมเป็นราคาหน้าปั๊ม 31.94 บาทต่อลิตร
เลิกอุ้มภาษีดีเซล ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ราคาหน้าปั๊มเท่าเดิม
มีตัวเลขคู่หนึ่งจากโครงสร้างราคาน้ำมันที่น่าสนใจ คือ ภาษีสรรพสามิตที่กำลังจะกลับไปเก็บเพิ่มอีก 5 บาท เท่ากับภาษีสรรพสามิต จะอยู่ที่ 5.1340 บาท เทียบกับกองทุนน้ำมันที่ตอนนี้เก็บอยู่ 5.430 บาท ถ้าใช้วิธีกลับด้าน คือ กลับมาเก็บภาษี แต่ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันไป 5 บาท ราคาหน้าปั๊มก็จะเท่าเดิม ซึ่งมีความเป็นไปได้
ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 29 พฤษภาคม ติดลบอยู่ที่ 69,000 ล้านบาท ถ้าลดการเก็บเงินจากน้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันไป 5 บาทต่อลิตร แน่นอนว่าสถานะกองทุนน้ำมัน ก็อาจจะกลับมาติดลบเพิ่มขึ้น แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะการบริหารจัดการในการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันนั้น ยังมีน้ำมันอีกหลายประเภทในการบริหาร เขาก็อาจจะลดตรงนี้ ไปเพิ่มตรงส่วนอื่น เช่น เบนซิน แก๊สโซฮอล์ ก็จะทำให้รายได้ที่เข้ากองทุนน้ำมันอาจไม่ได้ลดลงมากนัก แต่เชื่อได้เลยว่าน่าจะมีคนออกมาโต้แย้งว่า แล้วทำไมต้องเอาเงินของคนที่เติมน้ำมันประเภทอื่นไปอุ้มดีเซล
