ผู้เสียหาย กว่า 100 ราย รวมตัวร้องทุกข์ หลังถูกนายหน้าหลอกไปทำงานต่างประเทศ สูญเงินรวมกว่า 3 ล้าน ระยะเวลาผ่านไปกว่า 1 ปี ผู้เสียหายทวงถาม เมื่อไรจะได้เดินทางไปทำงาน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
30 พ.ค.2566 นายสรวิศ ยุทธอาจ ทนายความ นำตัวแทนชาวบ้านผู้เสียหายในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ 8 คน เข้าร้องทุกข์ร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ มีนายอภิวัชร์ ภูหยาดฟ้า ปลัดอำเภออาวุโส อ.บำเหน็จณรงค์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฎีระพัฒน์ เนื่องเหมรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหางาน จ.ชัยภูมิ รับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้านผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้เสียเงินเป็นค่านายหน้า ค่าดำเนินการในเรื่องต่างๆ รายละ 20,000 – 30,000 บาท เพื่อเดินทางไปทำงานเป็นสตาฟทีมนักกีฬาบาสเกตบอลลีก ที่ประเทศเบลเยียม มีชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาว ชาวอำเภอบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ หลงเชื่อจ่ายเงินให้กับนายหน้ากว่า 20 คน คิดเป็นค่าเสียหายกว่า 560,000 บาท และมีหลงเชื่อสมัครไปทำงานต่างประเทศกับนายหน้ากลุ่มนี้อีก ทั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ อยู่ที่ จ.อุดรธานี และ จ.ขอนแก่น รวมแล้วมากกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ระยะเวลาผ่านไปกว่า 1 ปี ชาวบ้านผู้เสียหายได้ทวงถามว่าเมื่อไรจะได้เดินทางไปทำงาน กลุ่มนายหน้าได้บ่ายเบี่ยงการเดินทางไปทำงานอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านกลุ่มผู้เสียหายที่สูญเงินไปมั่นใจถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศแน่ จึงรวมตัวไปขอความช่วยเหลือกับทนายสรวิศ ยุทธอาจ ที่อยู่ในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ ได้รวบรวมผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือ ร้องทุกข์ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ พร้อมไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกลุ่มนายหน้าเถื่อนกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
นายอภิวัชร์ ภูหยาดฟ้า ปลัดอำเภออาวุโส อ.บำเหน็จณรงค์ บอกว่าชาวบ้านตัวแทนผู้เสียหายถูกหลอกให้จ่ายเงินเป็นค่านายหน้า ค่าดำเนินการในการเดินทางไปทำงานต่างประเทศในครั้งนี้ ชาวบ้านผู้เสียหายได้ร้องเรียนในเรื่องถูกหลอกโดยได้ชักชวนไปทำงานเป็นสตาฟของสโมสรบาสเกตบอล สโมสรวอลเลย์บอล ได้เรียกเก็บเงินค่าทำเอกสาร 20,000 บาท ค่าตรวจสุขภาพ 5,000 บาท โดยที่ใครจะเป็นโรคประจำตัวอะไรก็แล้วแต่ เขาจะเคลียร์ให้หมด รวมถึงเรื่องหนี้ กยศ .บูโร อะไรต่างๆ จะเคลียให้ โดยเสียหายจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 3,000 บาท รวมแล้ว เบื้องต้นผู้เสียหายจ่ายเงินไปคนละประมาณ 20,000 - 30,000 บาท โดยการโอนเงินไปแล้ว ก็ไม่ได้ทำตามสัญญา ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ มีการผัดผ่อนเรื่อยมา และยังบอกจะให้ไปฝรั่งเศส และเรียกใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผู้เสียหายมั่นใจถูกหลอก เลยรวมกลุ่มกันไปปรึกษาทนายความ แล้วรวมตัวกันมาร้องทุกข์ร้องเรียนกับศูนย์ดำรงค์ธรรม อ.บำเหน็จณรงค์ ซึ่งได้รายงานให้ ผวจ.ชัยภูมิทราบเรื่องแล้ว ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาให้ความช่วยเหลือแล้ว รวมถึงเรื่องอาญัติบัญชีธนาคารของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเราพอทราบว่าเป็นใครร่วมขบวนการแล้วบางส่วน ซึ่งจะได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป...
ขณะที่ทั้ง น.ส.อภิญญา เรืองหิรัญวงย์ อายุ 29 ปี นายณัฐพงษ์ เรื่องหิรัญวงษ์ อายุ 29 ปี ชาวบ้านหนองแวง หมู่ 14 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จรณงค์ จ.ชัยภูมิ ผู้เสียหาย เล่าว่า จุดเริ่มแรกในการหลงเชื่อให้ต้องเสียเงินแล้วไม่ได้เดินทางเริ่มจากเห็นว่าเป็นชาวบ้านด้วยกัน จึงหลงเชื่อโดยมีคนแนะนำอีกทีหนึ่งว่ามีงานทำเป็นอาชีพที่มันโอเคสำหรับวัยรุ่นอย่างพวกหนู ได้เงินเดือน 70,000 บาท ทำงานแค่ 6 ชั่วโมง ถ้าเกิดว่าเกินนี้จะมีโอทีให้ ไปเป็นสตาฟไปเป็นเจ้าหน้าที่เบลเยี่ยม เป็นบาสเกสบอล กับวอลเลย์บอล โดย น.สอภิญญา บอกว่าจ่ายเงินไปแล้ว 28,000 บาท เมื่อทวงถามบอกว่ากำลังดำเนินการอยู่ มีการบ่ายเบี่ยงไปต่างๆนาๆ ล่าสุด บอกเขาว่าขอถอนตัวเพราะว่ามันนานแล้ว ได้รับคำตอบตอบหากถอนตัวจะโดนถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย มีผู้เสียหายในกลุ่มหนูประมาณเกือบ 40 คน ที่ถูกหลอกไปทำงานทั้งประเทศเบลเยี่ยม อิตาลี อเมริกา รวมถึงเกาหลี ทราบว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ทำงานเป็นขบวนการมากกว่า 4 คน มีการให้โอนเงินให้หลายบัญชี
