เช้านี้ที่หมอชิต - วันนี้ 31 พฤษภาคม เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่งประเทศไทยเรา รณรงค์การเลิกบุหรี่มาตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งปีนี้ การรณรงค์เน้นไปที่บุหรี่ไฟฟ้า เพราะเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้ง่าย
ทุกวันที่ 31 พฤษภาคม องค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก เพื่อให้แต่ละประเทศไปรณรงค์ให้ประชาชนในประเทศของตัวเอง เห็นพิษภัยของบุหรี่ ซึ่งประเทศไทยเริ่มรณรงค์งดสูบบุหรี่กันอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งมีแนวโน้มลดลงมาตามลำดับ โดยเฉพาะในช่วงโควิด มีการณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ควบคู่ไปด้วย และในประเทศไทยเรา พบว่าการสูบบุหรี่ลดลง 2 เปอร์เซ็นต์
แต่ว่าในปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาบุกตลาดอย่างหนัก แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายควบคุมห้ามขาย แต่ปรากฏว่า บุหรี่ไฟฟ้ากลับเข้าถึงวัยรุ่นได้ง่าย และกลุ่มวัยรุ่นเอง ก็หันไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้าสร้างความเข้าใจที่ผิดว่า บุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ อีกทั้งให้ข้อมูลด้วยว่าไม่มีนิโคติน รูปแบบสวยงาม การแต่งกลิ่นรสชาติต่าง ๆ กลิ่นหอมปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป ล้วนจูงใจให้วัยรุ่นอยากลองมากขึ้น
ข้อมูลจากภาควิชาสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งรณรงค์และทำระบบเลิกช่วยบุหรี่ให้กับประชาชน ระบุว่า จากการสำรวจในสถาบันการศึกษาในประเทศไทย พบว่า จำนวนการสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงขึ้นประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ทั่วประเทศอยู่ที่ 17 เปอร์เซ็นต์ ในภาพรวมของบุหรี่ไฟฟ้าไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ แต่จากการสำรวจเฉพาะกลุ่มพบว่าสูงมาก และที่สำคัญราคาถูกลง หาซื้อง่าย รูปแบบสวย และความเชื่อที่ผิด ๆ คิดว่าไม่มีนิโคติน ไม่อันตราย จึงลองกันมากขึ้น ทั้งที่ความจริงบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคติน ทำให้เสพติดได้
นอกจากนี้ ยังมีสารอันตรายที่เกิดจากการเผาไหม้ ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ มะเร็งปอด รวมไปถึงถุงลมโป่งพอง
จากข้อมูลเหล่านี้ และบุหรี่ไฟฟ้าที่เจาะกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ทำให้วันงดสูบบุหรี่โลกในปีนี้ ทางกรมควบคุมโรคเน้นถึงความสำคัญของมาตรการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
