ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พนักงานมหาวิทยาลัยชื่อดังจังหวัดสุราษฎร์ธานี สุดกร่าง นักศึกษาแค่เข้าไปถามเรื่องรายละเอียดกิจกรรม กลับไม่พอใจท้าต่อย แถมโชว์ปืนขู่ พบประวัติฉ้อโกงเงิน และลวนลามนักศึกษาผู้หญิงหลายราย
แฉคลิปพนักงานมหาวิทยาลัยหัวร้อน ท้าชก-ขู่ยิงนักศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี
คลิปเหตุการณ์ขณะนักศึกษาชาย 2 คน เข้าไปสอบถามรายละเอียดกิจกรรมกับพนักงานชายคนหนึ่ง แต่พนักงานดังกล่าวกลับแสดงท่าทางฉุนเฉียวไม่พอใจ ถึงขั้นขึ้นมึงกู ก่อนขู่ว่าอย่าให้เจอกันข้างนอก จากนั้นก็คว้ากระเป๋าสีดำขึ้นมาวางบนโต๊ะ ด้านในกระเป๋าคล้ายมีอาวุธปืน ก่อนไล่นักศึกษาออกจากห้องไป
คลิปนี้เพจเฟซบุ๊กชื่อดังนำมาโพสต์ ระบุว่า "พนักงานมหาวิทยาลัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ท้าต่อยนักศึกษา และเอาปืนขู่นักศึกษา แค่เข้าไปถามรายละเอียดกิจกรรม แต่พนักงานดังกล่าวหัวร้อน ถ้าเป็นนักศึกษาผู้หญิงจะคุยดี บางครั้งออกแนวคุกคามทางเพศ"
จากนั้นเพจดังกล่าวก็โพสต์ภาพพนักงานดังกล่าว เคยส่งรูปถือปืนเข้าไปในกลุ่มไลน์นักศึกษาวิชาทหาร คล้ายจะข่มขู่ ไม่ใช่แค่นี้ ยังมีพฤติกรรมโกงเงินค่าอุปกรณ์การเรียน เช่น ค่ากางเกงวอร์ม ค่าเสื้อ โดยออกอุบายให้นักศึกษาโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง แล้วเชิดหนี
ส่วนอีกประเด็นที่ถือว่าเป็นภัยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับนักศึกษาผู้หญิง เพราะพนักงานคนนี้มีพฤติกรรมลวนลาม จับหน้าอก หอมแก้ม ขอมีเพศสัมพันธ์แลกกับการให้ผ่านกิจกรรม ซึ่งเพจดังกล่าวยังได้ประกาศให้นักศึกษาที่เคยตกเป็นเหยื่อ ส่งรายละเอียดมาให้ทางเพจ เพื่อเร่งดำเนินคดีกับพนักงานคนนี้
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้บริหารของมหาวิทยาลัยดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทางมหาวิทยาลัยแจ้งว่า ขอคุยกันเองภายในก่อน และไม่ตอบคำถามใด ๆ กับนักข่าว
พนักงาน ม.ดัง แจ้งความกลับเพจเฟซบุ๊ก ยันบริสุทธิ์ จ.สุราษฎร์ธานี
ล่าสุด หนุ่มพนักงานที่ถูกกล่าวหา เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ขุนทะเล เอาผิดกับเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว ฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมชี้แจงว่าเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่เป็นการเข้าใจผิดกัน จึงทำให้มีคลิปแบบนั้นออกมา ส่วนที่ตนพูด มึง กู กับนักศึกษา ยอมรับว่าไม่เหมะสม แต่เป็นเรื่องปกติที่ตนใช้พูดกับนักศึกษาวิชาทหารที่นี่อยู่แล้ว ส่วนที่อ้างว่าตนควักปืนขู่ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะในกระเป๋าไม่มีปืน แต่เป็นบุหรี่ หลังเกิดเรื่องทางมหาวิทยาลัยได้มีการลงโทษ และสั่งย้ายตนไปช่วยราชการที่อื่นแล้ว
ส่วนประเด็นที่กล่าวหาว่าตนฉ้อโกง และลวนลามนักศึกษา ก็ไม่เป็นความจริง หากมีหลักฐานท้าให้เอาไปแจ้งความได้เลย ยอมรับว่าตอนนี้เครียดมาก ถึงขั้นเคยจะฆ่าตัวตายมาแล้วหลายรอบ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยดังกล่าวเพื่อพบอธิการบดี พูดคุยถึงข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าอธิการบดีไปราชการ และอยู่ในช่วงระหว่างปิดภาคเรียน แต่มีรายงานข่าวยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และลงโทษทางวินัยกับพนักงานคนดังกล่าวแล้ว และตอนนี้ก็ไม่ได้รับราชการอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว