ก้าวไกลหารือสภาหอการค้า ยก 13 ประเด็น แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจห่วงตั้งรัฐบาลช้า ทำประเทศเสียโอกาส “พิธา”ย้ำช้าเร็วขึ้นอยู่กับ กกต. ห่วงปชช. ความเดือดร้อนรอไม่ได้
วันนี้ (31 พ.ค.66) เวลา 15.30 น. ภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างทีมผู้บริหารพรรคก้าวไกลกับสภาหอการค้าไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ได้นำทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับสภาหอกการค้าไทย หลักๆ มีประมาณ 13 ประเด็น และได้อัปเดตกับภาคเอกชนให้ทราบว่า การจัดตั้งรัฐบาลไปถึงไหนแล้ว มีคณะกรรมการในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ และในครั้งหน้าจะกลับมาพูดคุยในหลายประเด็นที่เป็นความสนใจของภาคเอกชน รวมถึงตัวเลขส่งออก และตัวเลขเงินเฟ้อ
“สภาหอการค้าอยากให้จัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด สุญญากาศสั้นที่สุด เท่าที่ฟังจากข่าว งบประมาณปี 67 วงเงิน 2.5 แสนล้าน ซึ่งสำนักงบประมาณ ก็พร้อมที่จะรื้อ หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานเข้าไปพูดคุย เช่น ราคาน้ำมันดีเซลจะเป็นลิตรละ 32 บาทหรือ 37 บาท เพราะเป็นกองทุนพลังงาน คิดตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อเข้าทำเนียบรัฐบาลจะได้ทำงานทันที ซึ่งจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากรับรองการเลือกตั้งเร็ว เราก็ทำงานได้เร็ว” นายพิธาระบุ และย้ำว่า ประชาชนรอความเดือดร้อนไม่ได้ หากรัฐบาลใหม่ไม่ทันวันที่ 20 ก.ค.66 ก็จะไม่มีมาตรการพยุงราคาน้ำดีเซล ราคาดีเซลอาจขึ้นไปเป็น 37 บาท
ประธานสภาหอการค้า บอกว่าเป็นการพบปะที่สร้างสรรค์ และสบายใจเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน หลายเรื่องพรรคก้าวไกลต้องทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นนายพิธาหรือพรรคไหน หากตั้งรัฐบาลไม่เร็ว ก็เป็นความเสียหายของประเทศ เนื่องจากต่างชาติจับตาและกังวล การจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วจะเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ เราอยากเห็นการตั้งรัฐบาลได้เร็วที่สุด ได้เห็นไทม์ไลน์ในเดือนกันยายน และเป็นห่วงที่สุดประเด็นงบประมาณรายจ่าย ซึ่งงบประมาณฐานศูนย์ ไทยก็เคยทำ แต่ถ้าทำในช่วงเวลาจำกัด จะทำให้งบฯ เบิกจ่ายไม่ทัน อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายสนั่น ย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นนายพิธาหรือพรรคไหน หากตั้งรัฐบาลไม่เร็ว ก็เป็นความเสียหายของประเทศ เนื่องจากต่างชาติจับตาและกังวล การจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วจะเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ เราอยากเห็นการตั้งรัฐบาลได้เร็วที่สุด ได้เห็นไทม์ไลน์ในเดือนกันยายน และเป็นห่วงที่สุดประเด็นงบประมาณรายจ่าย ซึ่งงบประมาณฐานศูนย์ ไทยก็เคยทำ แต่ถ้าทำในช่วงเวลาจำกัด จะทำให้งบฯ เบิกจ่ายไม่ทัน อาจกระทบต่อเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
