![6477201ff28603.30739246.jpg](https://cdni-hw.ch7.com/dm/sz-md/i/images/2023/05/31/6477201ff28603.30739246.jpg)
วันนี้ (31 พ.ค. 66) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งาน “Thailand Travel Mart Plus” ถือเป็นงานส่งเสริมการขายแบบ B2B ด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นเวทีสำคัญในการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยกับผู้ประกอบการนำเที่ยวจากต่างประเทศ เพื่อตอกย้ำความพยายามของ ททท. ในการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทย พร้อมยกระดับห่วงโซ่อุปทาน (Shape Supply) สร้างมาตรฐานสู่ความยั่งยืน ควบคู่กับการส่งมอบคุณค่าและความหมายของการท่องเที่ยว (Meaningful Travel) และการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ผ่าน Soft Power of Thailand
![6477201990d6f3.43345482.jpg](https://cdni-hw.ch7.com/dm/sz-md/i/images/2023/05/31/6477201990d6f3.43345482.jpg)
ขณะที่ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า จากความสำเร็จของการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยในปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กว่า 11.8 ล้านคน ซึ่งถือว่าสูงกว่าเป้าหมาย ทำให้ผู้เข้าร่วมงาน TTM+ 2023 ครั้งนี้มีจำนวนมากขึ้น โดยมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยและกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เข้าร่วมงาน จำนวนทั้งสิ้น 435 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 60.7% จากปีที่แล้ว และมีผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้าร่วมเป็นครั้งแรก 35%
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจาก 50 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมงาน TTM+ 2023 ทั้งสิ้น 374 ราย เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มกว่า 42% ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีการเจรจาธุรกิจในงานกว่า 11,760 นัดหมาย
สะท้อนให้เห็นว่าตลาดท่องเที่ยวไทยกำลังได้รับความสนใจ และประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นับเป็นสัญญาณที่ดีในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่เป้าหมายภาพรวมรายได้ตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท ภายในปี 2566
![6477201bc552a4.56307049.jpg](https://cdni-hw.ch7.com/dm/sz-md/i/images/2023/05/31/6477201bc552a4.56307049.jpg)
สำหรับกิจกรรมไฮไลท์ของงาน TTM+ 2023 ประกอบด้วย
- กิจกรรม TTM Talk ภายใต้หัวข้อ Building A Sustainable Future for Tourism with Innovation Technology โดย Mr. Ray Iramaneerat จากบริษัท Google Cloud Thailand
- กิจกรรม Product Update ฉายภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทยและประเทศกัมพูชา หนึ่งในประเทศจากกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS )
นอกจากนี้ ททท. ยังตอกย้ำทิศทางการท่องเที่ยวไทยที่มุ่งสู่ Smart Tourism ด้วยโซน Travel Tech ซึ่งร่วมกับพันธมิตร Bitkub Metaverse TAGTHAi Cf-Hotels และ T-ECOSYS จัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับการท่องเที่ยวในหัวข้อ Future of Tourism และโซน Net Zero Tourism นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ธรรมชาติและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs ต่อมาที่ โซน Showcase และ Workshop แสดงผลิตภัณฑ์และสินค้าจาก 5 ชุมชน ได้แก่ กิจกรรมเบลนด์ชาจาก ARAKSA TEA Garden จ.เชียงใหม่ กิจกรรมเพ้นท์สีเข็มขัด ตัวหนังตะลุง จากกลุ่มรักษ์คอน จ.นครศรีธรรมราช กิจกรรมประดิษฐ์ถุงผ้าพิมพ์ลายฉลุจากกลุ่มลูกหว้า จ.เพชรบุรี กิจกรรม DIY น้ำมันนวดหอมระเหยจากสมุนไพรไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี และผลไม้จากภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังมีโซนสาธิต สร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมายผ่านเรื่องราวของขนมหวานไทย ชิมขนมไทยกระทงใบตอง อาทิ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมตะโก้ และกาแฟออแกนิกแบรนด์ไทย อาทิ แบรนด์ Alexra Coffee จ.เชียงราย
![6477201a71a3d8.16392895.jpg](https://cdni-hw.ch7.com/dm/sz-md/i/images/2023/05/31/6477201a71a3d8.16392895.jpg)
ทั้งนี้ ช่วงเย็นของวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ททท. จัดกิจกรรม Welcome Reception ต้อนรับผู้เข้าร่วมงานด้วยความเป็นไทย (Thainess) ผ่านศิลปวัฒนธรรมไทยและอาหารไทยจากร้านอาหาร MICHELIN ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ ขนมเบื้องหวานผึ้งน้อย บุญเลิศ บะหมี่เกี๊ยว หมูย่างซีอิ๊ว ส้มตำคุณกัญจณ์ และจกโต๊ะเดียว รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามแนวคิด Reuse Reduce Recycle มาเป็นองค์ประกอบตกแต่งการจัดงาน
นอกจากนี้ ททท. ยังมุ่งให้ความสำคัญกับส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยจัดกิจกรรมทัศนศึกษาสำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว Pre-Post Tour สำหรับ Buyers และสื่อมวลชนต่างประเทศ ได้แก่ กิจกรรม Pre-Tour ในวันที่ 30 และ 31 พฤษภาคม 2566 นำเสนอกิจกรรมการท่องเที่ยวมุมมองใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ จ.นนทบุรี ภายใต้แนวคิดลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม และกิจกรรม Post-Tour ส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าและความหมาย จำนวน 4 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา (เขาใหญ่) – ปราจีนบุรี สมุทรสงคราม - กาญจนบุรี และนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 3 – 5 มิถุนายน 2566 เพื่อเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวจากต่างประเทศทดลองสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทย และออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวนำเสนอกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
![6477201dc9a649.11655670.jpg](https://cdni-hw.ch7.com/dm/sz-md/i/images/2023/05/31/6477201dc9a649.11655670.jpg)
ทั้งนี้ ททท.คาดว่าการจัดงาน TTM+ 2023 ครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2,420 ล้านบาท ทั้งจะเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในการสะท้อนความร่วมมือ สร้างความเข้าใจ และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพ พลิกฟื้นเศรษฐกิจนำไปสู่ความยั่งยืนทุกมิติอย่างแท้จริงต่อไป
![6477202193e263.79799698.jpg](https://cdni-hw.ch7.com/dm/sz-md/i/images/2023/05/31/6477202193e263.79799698.jpg)
![64772018648028.80328975.jpg](https://cdni-hw.ch7.com/dm/sz-md/i/images/2023/05/31/64772018648028.80328975.jpg)