เช้านี้ที่หมอชิต - นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยัน พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลมัดกันแน่น แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ตาม ก็ยังจะทำงานร่วมกัน
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่า หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขาดคุณสมบัติการเป็น สส. ในประเด็นถือหุ้นไอทีวี และถูกร้องเรื่องการรับรองผู้สมัคร สส.ของพรรคก้าวไกล อาจต้องเลือกตั้งซ่อมทั้งประเทศในเขตที่พรรคก้าวไกลชนะ ว่าประเด็นนี้มีการพูดคุยกัน เพราะคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคที่ไปลงนามรับรองผู้สมัครของพรรค มีคุณสมบัติครบหรือไม่อย่างไร ต้องไปดูประเด็นนั้น
ยกตัวอย่างกรณีของตน ที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย จังหวัดนนทบุรี ถูกชี้ว่าคุณสมบัติไม่ครบ เพราะถูกจำกัดสิทธิจากการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หลายฝ่ายมองว่าหัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบร่วมด้วย ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว การถูกจำกัดสิทธิไม่ใช่ลักษณะต้องห้าม ฉะนั้นไม่จำเป็นว่าหัวหน้าพรรคที่เซ็นไปลงสมัครรับเลือกตั้งต้องรับผิดชอบ หัวหน้าพรรคจะรับผิดชอบเฉพาะกรณีที่ไปลงนาม ตัวผู้สมัครที่รู้อยู่ว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติ และมีคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งเมื่อมีคุณสมบัติต้องห้าม และยังลงนามให้ไปลงรับสมัคร ต้องรับผิดชอบทางอาญา
นายแพทย์ชลน่าน ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถาม หากเกิดอะไรขึ้นกับนายพิธา ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยยังให้โอกาสพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ว่า ยืนยันมัดกันแน่น และยังคงทำงานร่วมกันเหมือนเดิม ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็ยังคงทำงานกันต่อไป ส่วนรายละเอียดก็ดูเป็นเรื่อง ๆ ไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร มีข้อกฎหมายรองรับอะไรหรือไม่อย่างไร
ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทวีตในทวิตเตอร์ว่า ขยายความจากที่สองหัวหน้าพรรคพูดไป การเลือกประธานสภาทั้ง 313 เสียง จะเสนอชื่อเพียงชื่อเดียว จะไม่มีภาพที่ 2 พรรค (เพื่อไทย-ก้าวไกล) ต่างฝ่ายต่างเสนอชื่อเพื่อให้ไปโหวตแข่งกันในสภา และถ้าพรรคไหนไม่ได้ตามความต้องการขึ้นมา ก็จะไม่เอาความคิดแตกต่างกันนี้ไปเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล
จากนี้ไปการจัดตั้งรัฐบาล น่าจะเข้าสู่โหมดการเชิญชวนให้ได้เสียงสนับสนุนจนครบ 376 เสียง ช่วยกัน
