เช้านี้ที่หมอชิต - ฝุ่น PM2.5 ยังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยเรา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และกรุงเทพมหานคร ซึ่งก่อนหน้านี้ การวัดค่า PM2.5 ของไทยเรา แตกต่างจากเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก แต่ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเทศไทยเรา จะปรับเปลี่ยนเกณฑ์ PM2.5 ใหม่ ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
การวัดค่า PM2.5 ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกนั้น ก็คือ 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนประเทศไทยเรา ก่อนหน้านี้ ใช้เกณฑ์วัดค่า PM2.5 ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การวัดค่ามาตรฐาน PM2.5 ที่ประเทศไทยเราใช้อยู่นั้น ถือว่ามีความหย่อนยานกว่าที่สากลเขาใช้กัน นั่นก็จะส่งผลต่อการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพน้อยลงไปด้วย ซึ่งก็ตีความได้ว่า การกำหนดค่าที่สูงกว่าที่สากลเขาใช้กัน อาจจะไม่คุ้มครองสุขภาพของประชาชนในระดับที่ดีที่สุด
ดังนั้นตั้งแต่วันนี้ คือวันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไป ประเทศไทยจึงปรับเปลี่ยนเกณฑ์การวัดค่า PM2.5 จากเดิม 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มาเป็น 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
ส่วนค่าเฉลี่ยรายปี เดิมอยู่ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ก็จะปรับเปลี่ยนลงมาเป็น 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สำหรับการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ ส่งผลให้มีความเข้มข้นมากขึ้น ในการการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และถือเป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพอากาศของประเทศไทย ในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และให้เทียบเท่าตามมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศกลุ่มอาเซียน อย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย ที่ใช้เกณฑ์ PM2.5 ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
