ข่าวภาคค่ำ - คดีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก มีเบาะแสผู้รับและผู้ให้มากขึ้น เหลือเพียงการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิด โดยวันพรุ่งนี้ ได้นัดหมาย ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เข้าให้ข้อมูลและหารือแนวทางแก้ปัญหา
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้เซ็นคำสั่งยกเลิก "ชุดเฉพาะกิจทางหลวง" ที่เชื่อว่ามีตำรวจบางนายเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีปัญหา "ส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก" เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ที่รวบรวมได้ เป็นข้อมูลเชิงการสืบสวน เช่น ชื่อผู้ประกอบการ ตำรวจ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง แต่ยังขาดพยานหลักฐาน ซึ่งได้สั่งการให้ไปดำเนินการเพิ่ม โดยยอมรับว่าผู้กระทำผิดยังมีหน่วยงานอื่นนอกจากตำรวจด้วย ยืนยันข้อมูลที่มี มีมากกว่าที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว
ขณะที่วันพรุ่งนี้ได้นัดหมายให้ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เข้าให้ข้อมูลปัญหาการทุจริต และหารือแนวทางแก้ไขปัญหา ส่วน นายวิโรจน์ ลักขณา อดิศร ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล ผู้เปิดประเด็น ได้เชิญเข้าข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ทั้งนี้ ยังได้กล่าวชื่นชม นายวิโรจน์ ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลการทุจริต และพร้อมจะร่วมงานแก้ไขปัญหาทุจริตให้หมดไป
ขณะที่ พลตำรวจตรี สันติ์นที ประยูรรัตน์ โฆษกสำนักงานจเรตำรวจ เปิดเผยความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ โดยบอกว่า วันนี้มีการประชุมวางกรอบในการตรวจสอบพยานหลักฐาน และกำหนดคนที่จะเรียกเข้าให้ปากคำ เช่น นายวิโรจน์, นายกสมาพันธ์รถบรรทุกฯ, พลตำรวจตรี เอกราช ลิ้มสังกาศ ที่มีคำสั่งย้ายออกจากตำแหน่ง รวมถึงตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งสรุปผลการตรวจสอบให้ได้ภายใน 15 วัน ตามคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
