คาดอีก 2 สัปดาห์ ชัดเจนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ

View icon 19
วันที่ 2 มิ.ย. 2566 | 07.18 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - การเมืองตอนนี้อาจเรียกว่าอยู่ในโหมดแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง จะไม่ได้เห็นวิวาทะของแต่ละพรรค ที่กำลังจับมือกันตั้งรัฐบาลแล้ว โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับตำแหน่งการเมือง ไม่ว่าจะเป็นประธานสภาฯ หรือ โควตารัฐมนตรี เรื่องพวกนี้เขาจะไปจับเข่าคุยกัน โดยคาดว่าจะจบภายใน 2 สัปดาห์นี้

คาดอีก 2 สัปดาห์ ชัดเจนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ
คนที่ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการฟอร์ม ครม. พิธา 1 คือ คุณชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล บอกว่า คณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลกำลังวางนโยบาย เพื่อนำไปสู่การจัดสรรงานในรับผิดชอบของแต่ละคน ตามความเหมาะสม คาดว่า ก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะจัดสรรตำแหน่งต่าง ๆ แล้วเสร็จ

นอกจากนี้ คุณชัยธวัช ยังปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยยืนยันว่าจะมีการพูดคุยกันอีกครั้งระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนได้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้

ปิดฉาก เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เพื่อไทย ขอกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน
ส่วนใครที่รอได้จับเงินหมื่นจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย คงต้องรอเก้อซะแล้ว ล่าสุด มีการเปิดเผยจาก คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการหารือร่วมกับทีมเศรษฐกิจของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล พบว่ายังมีหลายนโยบายที่มีความเห็นแตกต่างกัน แต่สามารถหาจุดลงตัวได้ และจะชัดเจนเร็ว ๆ นี้ ซึ่งยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยและก้าวไกล มีแนวนโยบายที่ต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก ดังนั้นต้องเลือกนโยบายใดนโยบายหนึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น จึงต้องให้เกียรติพรรคแกนนำอันดับ 1 ในการเสนอนโยบาย ดังนั้น นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อาจจะต้องชะลอไปก่อน

นั่นเป็นคำพูดล่าสุดที่บอกว่าต้องชะลอนโยบายนี้ออกไปก่อน ทีนี้เราย้อนไปดูหน่อยว่าช่วงหาเสียง เพื่อไทยเขาห้าวหาญขนาดไหนในการเสนอนโยบายนี้ เรียกว่าเปิดตัวยิ่งใหญ่พร้อม 3 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ไม่ฟังเสียงทักท้วงใด ๆ เลย ยืนยัน นโยบายที่ต้องใช้เงินมากกว่า 5 แสนล้านบาท จะช่วยหมุนวงรอบเศรษฐกิจได้ถึง 6 เท่า

จับตา กว่าจะตั้งรัฐบาลได้ ต้องถอยอีกกี่นโยบาย?
และไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย ใส่เกียร์ถอย ทางพรรคก้าวไกลก็จ่อขยับเวลาที่เคยวางไว้ว่า 100 วัน ทำทันทีด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องของการปรับขึ้นค่าแรงเป็น 450 บาทต่อวัน เพราะหลังจากได้ไปหารือกับภาคธุรกิจทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าไทยมาแล้ว ก็รับทราบถึงข้อกังวลของภาคธุรกิจหลายอย่าง

หลังจากนี้นอกจากประชาชนจะต้องจับตาดูว่า 8 พรรคจะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ คุณพิธา จะผ่านพ้นทุกขวากหนามก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้หรือเปล่า ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยว่า ทุกนโยบายที่เคยประกาศไว้กับประชาชนจะทำได้จริงหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง