หญิงวัย 45 ป่วยหนัก หมดทางรักษา ญาติตัดสินใจให้กลับมาสิ้นใจที่บ้าน แต่ผ่านไปกว่า 10 ยังไม่ตาย ครอบครัว เชื่อจริงๆแล้ว หญิงวัย 45 เสียชีวิตไปแล้วแต่ยังมีลมหายใจเพราะถูกผีสิงร่างขอส่วนบุญ
ความคืบหน้ากรณีที่นายสมจิตร พิทักศรี และนางสำราญ พิทักศรี สองสามีภรรยา ชาวบ้านหนองมน ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้นิมนต์พระครูสังวรธรรมโสภณ หรือหลวงพ่อวินัย เจ้าคณะตำบลสะเดา มาช่วยทำพิธีปัดเป่าสิ่งลี้ลับออกจากตัวของ น.ส.ปฤษณา อายุ 45 ปี ลูกสาวซึ่งป่วยระยะสุดท้ายนอนรักษาที่ รพ.หลายวัน แต่อาการไม่ดีขึ้น หมอบอกให้ญาติทำใจและอนุญาตให้พาผู้ป่วยกลับมาบ้านได้ พอมาถึงบ้านทั้งครอบครัวญาติพี่น้องต่างก็พากันมาล่ำลาและขออโหสิกรรมเป็นครั้งสุดท้าย เพราะสภาพร่างกายของ น.ส.ปฤษณา ไม่ตอบสนองหรือรับรู้อะไร แต่ที่ครอบครัวแปลกใจ คือ ตรวจไม่พบชีพจรแล้ว แต่ยังมีลมหายใจอยู่ ชาวบ้านและผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านจึงเชื่อว่า น.ส.ปฤษณา เสียชีวิตไปแล้วแต่ที่ยังมีลมหายใจ เพราะมีผีชะมกหรือผีปอบมาสิงร่างแทน เพื่อขอส่วนบุญ โดยใช้ร่างกายของ น.ส.ปฤษณา จึงไม่ยอมให้เสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (2 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อติดตามอาการของ น.ส.ปฤษณา โดยได้มีหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และหน่วยกู้ชีพ เดินทางดูอาการและใช้เครื่องวัดความดันด้วย ซึ่งสภาพร่างกายล่าสุดของ น.ส.ปฤษณา วันนี้พบเท้าบวมทั้ง 2 ข้าง แขนขา และตามลำตัวหลายจุดมีรอบช้ำอาจจะเกิดจากการนอนกดทับ ไม่สามารถสื่อสารอะไรได้ รับประทานอาหารไม่ได้ แต่จากการตรวจชีพจรวันนี้พบมีสัญญาณชีพ แต่หายใจแผ่วเบา ซึ่งครอบครัวก็ยังเชื่อว่าอาจจะมีสิ่งลี้ลับมาสิงร่างจึงทำให้ยังหายใจอยู่ พร้อมกันนี้ก็ได้ให้คุณแม่ได้พูดคุยกับ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา ผ่านวิดีโอคอล เพื่อเล่าถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูกสาวให้หมอปลาฟัง
ทั้งนี้ยังให้หมอปลาได้ดูสภาพของน้องด้วย ซึ่งเบื้องต้นหมอปลาบอกกับทางครอบครัวว่า ให้รอดูหลังวันพระก่อนว่าน้องจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากยังมีชีวิตอยู่หมอปลา ก็จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านอีกครั้งว่าเกิดจากอะไร เพื่อช่วยเหลือน้องและครอบครัว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้
นางสำราญ ผู้เป็นแม่ บอกว่า หลังจากได้พูดคุยกับหมอปลา ก็รู้สึกสบายใจขึ้น ซึ่งหมอปลาแนะนำว่าให้รอดูหลังวันพระก่อนว่าน้องจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากน้องยังมีชีวิตอยู่หมอปลาก็จะมาช่วย เพราะที่ผ่านมาทางครอบครัวก็ทั้งให้พระ และหมอพื้นบ้านมาทำพิธีตามความเชื่อแล้ว แต่ลูกก็ยังเหมือนเดิมส่วนตัวก็เชื่อว่าน่าจะมีสิ่งลี้ลับมีสิงร่างลูกตามที่โบราณเขาว่าจริง จากสิ่งที่ผิดปกติเพราะทาง รพ.แจ้งว่า น้องอยู่ได้ เพราะเครื่องช่วยหายใจ ที่ผ่านมาทาง รพ.ก็รักษาเต็มที่ให้ยาที่ดีที่สุดแล้วแต่น้องก็ไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจพาลูกกลับมาบ้านเพื่อให้มาสิ้นใจที่บ้านก็คิดว่าหากถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว ไม่เกิน 2 วันลูกคงจะจากไปจนทางครอบครัวจัดเตรียมสถานที่ไว้แล้ว แต่นี้ผ่านมากว่า 10 วันแล้วน้องก็ยังอยู่สภาพเดิม ก็อยากให้หมอปลามาช่วยอยากให้ลูกพ้นทุกข์ไม่อยากเห็นลูกต้องนอนทรมานแบบนี้ อยากให้ลูกจากไปอย่างสงบ
ด้านนายสราวุฒิ จังกินา นายกสมาคมกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากทาง รพ.นางรอง ให้ไปรับผู้ป่วยเพื่อให้กลับไปเสียชีวิตที่บ้าน ซึ่งระหว่างทางก็ให้ใส่เครื่องออกซิเจน เพื่อต้องการให้ผู้ป่วยมาเสียที่บ้าน ซึ่งหลายๆ เคสเมื่อมาถึงที่บ้านแล้วถอดเครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1-2 ชม. ก็จะเสียหรือเต็มที่อาจจะอยู่ได้ 1 หรือ 2 วันก็จะสิ้นใจ แต่เคสนี้แปลกมาเพราะอยู่มาถึง 12 วันแล้วแต่ไม่รู้สึกอะไร แต่ที่ทางครอบครัวเชื่อว่าน่าจะมีสิ่งลี้ลับที่ทำให้น้องยังมีลมหายใจนั้น ส่วนตัวเป็นกู้ภัยฯ และยังไม่เคยเจอสิ่งลี้ลับกับตัวเองก็ต้องบอกว่าไม่เชื่อ แต่หากหมอปลา จะมาช่วยเหลือก็เป็นสิ่งที่ดีกับทางครอบครัวก็จะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งคนในครอบครัวที่ต้องดูแล และอยากให้น้องจากไปอย่างสงบไม่ต้องทรมาน