ข่าวภาคค่ำ - หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ โรงฆ่าแพะและวัว 2 แห่ง ในจังหวัดสตูล มูลค่ารวมกว่า 32 ล้านบาท สร้างแล้วปล่อยทิ้งร้าง นานนับ 10 ปี ครุภัณฑ์ถูกขโมยไม่เหลือแม้แต่ฝาผนัง เหลือเพียงโครงสร้างอาคาร ติดตามจาก คุณเตชะวัฒน์ สุขรักษ์ ในคอลัมน์หมายเลข 7
ซากอาคารที่ไม่มีผนัง ยกพื้นในป่ารก มีเศษโฟมผนังห้องเย็นจำนวนมาก จุดนี้คือโรงฆ่าแพะ ตำบลควนโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสตูล
ตรวจสอบในอาคาร เหลือเพียงชักโครก 1 ตัว เท่านั้น ที่ผ่านมา องค์การบริหารส่วนตำบลควนโพธิ์ขอใช้พื้นที่ แต่ติดขัดระเบียบ จนต้องปล่อยทิ้งร้าง ทรัพย์สินถูกขโมย และตั้งแต่ก่อสร้าง ไม่ได้ใช้ประโยชน์แม้แต่ครั้งเดียว
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกประชุมด่วน และไปสำรวจความเสียหาย ซึ่งปศุสัตว์จังหวัดสตูล ที่มารับตำแหน่งไม่ถึง 1 ปี ชี้แจง ตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2553 ก็ไม่มีการใช้งาน เพราะไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา อีกทั้งไม่มีใครเฝ้า ทรัพย์สินถูกขโมยกว่า 90 เปอร์เซ็น ที่เหลือนำไปเก็บไว้ที่สำนักงาน
ด้าน ป.ป.ช.สตูล เผย ต้องเร่งตรวจสอบมูลค่าความเสียหายทั้งหมด ส่วนโครงการก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้าง ไม่ได้ใช้งานตามวัตถุประสงค์ ยังพบไม่มาก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะบางหน่วยงานมีงบประมาณจำกัด จึงเป็นอุปสรรคในการดูแล บำรุงรักษาอาคารและทรัพย์สิน
เมื่อเดินรอบอาคาร พบประตูเหล็กถูกเชื่อมติดกัน แต่บางจุดถูกทำลายจุดเชื่อม ภายในพบเครื่องจักร พบครุภัณฑ์บางส่วน และพบเครื่องทำความเย็นในห้องเย็น แต่ทรัพย์สินหลายชิ้น เช่น ปลั๊กไฟ ฝ้าเพดาน อ่างล้างมือ ถูกขโมย
เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาผลัดเปลี่ยนกันมาดูแลทรัพย์สินบ่อยครั้ง และจับโจรได้หลายครั้ง ส่วนสาเหตุที่ไม่เปิดใช้งาน ต้องสอบถามจากผู้บริหาร แต่ชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า การก่อสร้างผิดหลักศาสนาอิสลาม ตั้งแต่แล้วเสร็จ ก็ทดลอง 1 ครั้ง จากนั้นปิดตายถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้ โรงฆ่าแพะและโค ใช้งบประมาณพัฒนาจังหวัดสตูล เมื่อปี 2552 แล้วเสร็จปี 2553 โดยโรงฆ่าแพะใช้งบประมาณก่อสร้าง 2,734,485.35 บาท ส่วนโรงฆ่าโค 4,853,114.40 บาท แต่เมื่อรวมงบประมาณก่อสร้าง และครุภัณฑ์ มูลค่ามากกว่า 32 ล้านบาท
ขณะที่ สำนักงานปศุสัตว์เพิ่งขอขึ้นทะเบียน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2561 ส่วนท้องถิ่นใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะติดข้อกฎหมายและการดำเนินการของสำนักงานปศุสัตว์
ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล สั่งการหน่วยงานต่าง ๆ ให้ตรวจสอบทรัพย์สินว่าขึ้นทะเบียนแล้วหรือไม่ เพราะพบว่ายังไม่ดำเนินการให้ถูกต้องจำนวนมาก ส่วนงบประมาณที่พบปัญหามากที่สุด คือ งบพัฒนาจังหวัด
