ไม่รอด! โจรบุกเดี่ยวจี้ธนาคาร เจอ รปภ.ห้าง ดีกรีนักมวยเก่า รวบทันควัน

ไม่รอด! โจรบุกเดี่ยวจี้ธนาคาร เจอ รปภ.ห้าง ดีกรีนักมวยเก่า รวบทันควัน

View icon 1.7K
วันที่ 5 มิ.ย. 2566 | 09.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
โจรบุกเดี่ยวปล้นธนาคาร จับพนักงานเป็นตัวประกัน ได้เงิน 2 แสนกว่าบาท แต่เจอ รปภ.ห้าง ดีกรีนักมวยเก่า รวบได้ทันควัน เจ้าตัวสารภาพติดหนี้พนันออนไลน์

วันนี้ (5 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงาน ค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านสุวรรณภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางพลี สามารถจับกุมตัว นายทวีศักดิ์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางเป็นเงินสด 207,000 บาท และไขควงวัดไฟ สีเหลือง 1 อัน ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ชั้น 1 ของห้างดังกล่าว หลังจาก นายทวีศักดิ์ ก่อเหตุใช้ไขควงจี้เอวพนักงานของธนาคารทหารไทยธนชาติ (TTB) ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 3 ภายในห้าง เพื่อจับตัวเป็นตัวประกัน จากนั้นบังคับพนักงานในธนาคารส่งเงินสดให้กับคนร้าย หลังได้เงินแล้วก็จับพนักงานเป็นตัวประกัน หวังหลบหนีออกจากธนาคาร ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่รปภ.ของห้างช่วยกันล้อมจับกุมตัวส่งตำรวจได้พร้อมของกลางทั้งหมด

นายสุริพงศ์ เจริญหทัยรัตน์ หนึ่งในพนักงาน รปภ.ที่เข้าไปจับกุม บอกว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนกำลังเข้าเวรอยู่ และเป็นช่วงที่ธนาคารต่างๆ ในห้างกำลังปิด จึงเป็นช่วงที่ถูกวางมาตรการป้องกันเหตุไว้ จังหวะที่กำลังเดินตรวจตราในห้างอยู่นั้น มีวิทยุแจ้งสัญญาณแจ้งภัยของธนาคารดัง ตอนแรกก็ยังไม่ทราบว่าเป็นธนาคารไหน เพราะตอนนั้นทุกอย่างยังคงปกติ กระทั่งพบว่ามีคนร้ายจับพนักงานเป็นตัวประกันเดินออกมาจากธนาคาร แล้ววิ่งหนีลงบันเลื่อน จึงวิ่งตามก่อนจะช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้

ด้าน นายอลงกรณ์ ฤกษ์ตุลา อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่รปภ. ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงอดีตนักมวยเก่า และเป็นอีกคนที่เข้าไปล็อกตัวคนร้าย เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นเข้าเวรในห้องรปภ. พอวิทยุแจ้งมาว่ามีคนร้ายก่อเหตุปล้นธนาคาร ตนเองก็รีบไปพอไปถึงก็พบว่าคนร้ายกำลังหลบหนีออกจากห้าง ตอนนั้นมั่นใจแล้วว่าประตูทุกบานของทางห้างถูกล็อกปิดทั้งหมด จึงล้อมจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด ตอนนั้นตนไม่มีความกลัว เพราะเคยเป็นนักมวยเก่า

ด้าน นาย ทวีศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การทั้งน้ำตาและเอ่ยปากขอโทษพนักงานของทางธนาคาร โดยบอกว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ทำลงไป เพราะเป็นหนี้การพนันออนไลน์ จำนวนกว่า 5 แสนบาท และวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะต้องหาเงินไปใช้หนี้ เพื่อไถ่รถที่เอาไปจำนำไว้ จึงตัดสินใจวางแผนก่อเหตุ โดยนั่งรถแท็กซี่มาจากถนนเทพรัตน กม. 19 ซึ่งห่างจากห้างแห่งนี้ประมาณ 7 กิโลเมตร พอมาถึงก็เดินวนอยู่หน้าธนาคารคิดว่าจะทำดีหรือไม่ทำ แต่เพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุโดยใช้ไขควงจี้เอวพนักงานบังคับให้ส่งเงินมาให้

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เข้าสอบปากคำเบื้องต้นด้วยตนเอง และคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในธนาคารดังกล่าว โดยเริ่มจากการเข้าไปในธนาคาร แล้วคนร้ายเดินเข้าไปประกบพนักงานธนาคารที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ช่องที่ 5 ซึ่งอยู่ด้านข้างของธนาคาร จากนั้นใช้ไขควง จี้เอวพนักงานหญิงคนดังกล่าวบังคับให้เปิดลิ้นชักเก็บเงิน แต่ไม่มีเงินจึงจับเป็นตัวประกันเดินไปที่เคาน์เตอร์ช่องที่ 2 เพื่อให้พนักงานคนอื่นไปหยิบเงินจากตู้เซฟมาให้ ครั้งแรกไม่ทราบจำนวน แต่คนร้ายพอเห็นเงินก็บอกว่าไม่พอ และขอเงินเพิ่มอีก พนักงานจึงส่งเงินอีกก้อนให้ รวมทั้งสิ้น 207,000 บาท ใส่ถุงพาสติกให้กับคนร้าย จากนั้นคนร้ายได้บังคับและจี้เอวพนักงานให้เดินออกจากธนาคารก่อนจะปล่อยตัวแล้ววิ่งหลบหนี

อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่รปภ.ของห้างที่มีความกล้าหาญและสามารถช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งในขณะปิดล้อมก็มีการประสานตำรวจไปด้วย จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมจับกุมตัวได้สำเร็จ ส่วนมาตรการการป้องกันนั้นปกติแล้ว ทุกห้างและธนาคารจะมีตำรวจสายตรวจเดินเท้าในการป้องกันเหตุอยู่แล้ว เพียงแต่ทำได้แค่ห้างละหนึ่งนายเท่านั้น เนื่องจากกำลังไม่เพียงพอ หลังจากนี้จะกำชับให้สายตรวจเดินเท้าเพิ่มในการป้องกันเหตุ และฝากเตือนนักพนันออนไลน์ให้ดูตัวอย่างคนร้ายรายนี้หากติดพนันก็จะคิดสั้นมาก่อเหตุ จึงอยากให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เพราะสุดท้ายหากมาก่อเหตุก็ไม่สามารถหลบหนีได้พ้นทุกราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง