ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มไปรับจ้างตัดอ้อย กลับถูกโกง ไม่ได้ค่าแรง ตัดสินใจเอาเงิน 200 บาท ที่ติดตัว ขึ้นรถโดยสารมาถึงบุรีรัมย์ แต่ต้องเดินเท้าต่อ 60 กิโลเมตร จนหมดเรี่ยวแรง โชคดีตำรวจมาเห็น
นายภูสิทธิ์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ในอาการอ่อนเพลีย ก้มกราบเท้าแม่ด้วยความดีใจที่รอดชีวิตมาได้ หลังตัดสินใจกำเงิน 200 บาทที่เหลือ ขึ้นรถตู้จากอำเภอปากช่อง มาลงที่สถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ไม่สามารถจะไปต่อได้ เพราะไม่มีเงินเหลือแล้ว ประกอบกับไม่ได้กินข้าว จึงยอมจำนนเดินเท้าจากขนส่งมุ่งหน้าบ้านที่อำเภอสตึก ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร หวังกลับบ้านเกิด ซึ่งคาดว่าจะไปถึงตอนเช้า แต่ตำรวจมาเจอก่อน
ซึ่งก่อนที่แม่ลูกจะเจอกัน ร.ต.อ.สมพร นาดี รองสารวัตร (จราจร) สภ.บ้านด่าน ได้ออกตรวจตรา จนกระทั่งไปเจอบุคคลต้องสงสัย เป็นชายเดินเท้าอยู่ริมถนน ก่อนถึงตัวอำเภอบ้านด่า จึงรายงานไปยังผู้กำกับการ สภ.บ้านด่าน พร้อมไปตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นนายภูสิทธิ์
พอสอบถามว่าทำไหมถึงมาเดินแถวนี้ นายภูสิทธิ์ เล่าว่า เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางไปทำงานรับจ้างตัดอ้อยที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีเงินติดตัวไป 800 บาท ซึ่งตกลงกันเหมาเป็นมัด เมื่อไปถึงได้ทำงานตามปกติ แต่ปรากฏว่านายจ้างไม่จ่ายเงินค่าตัดอ้อยเสียที จึงพยายามอดมื้อกินมือเพื่อรอเงินออกตามที่ตกลงกัน สัปดาห์ละครั้ง จนเวลาผ่านไปดูแล้วไม่มีแววที่จะได้เงิน จึงตัดสินใจนำเงินที่เหลือขึ้นรถตู้กลับบ้าน แต่รถตู้ก็ไปไม่ถึง ต้องเดินเท้าต่อไปอีก ระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร แต่โชคยังดีที่ตำรวจมาช่วยเหลือ พร้อมประสานไปยังผู้ใหญ่บ้าน และแม่ ให้เหมารถมารับ
ด้านแม่ของนายภูสิทธิ์ ก็ได้ยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ช่วยเหลือลูกชาย หาข้าวหาน้ำให้ลูกชายกิน พร้อมประสานงานติดต่อไปหาผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยเหลืออีกทาง