กลับมาแล้ว "อนุทิน" เข้าทำเนียบวันเเรก สั่งปลัดสธ. แจงครม. ปมหมอลาออก ยืนยันไม่เคย มีนโยบายไม่รับหมอจบใหม่ แต่ยังติดปัญหางบประมาณที่ไม่เพียงพอ

กลับมาแล้ว "อนุทิน" เข้าทำเนียบวันเเรก สั่งปลัดสธ. แจงครม. ปมหมอลาออก ยืนยันไม่เคย มีนโยบายไม่รับหมอจบใหม่ แต่ยังติดปัญหางบประมาณที่ไม่เพียงพอ

View icon 190
วันที่ 6 มิ.ย. 2566 | 11.19 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กลับมาแล้ว "อนุทิน" เข้าทำเนียบวันเเรก หลังเลือกตั้ง สั่งปลัดสธ. แจงครม. ปมหมอลาออก ยืนยันไม่เคย มีนโยบายไม่รับหมอจบใหม่ แต่ยังติดปัญหาการอนุมัติ จำนวนบุคลากร  และเรื่องงบประมาณที่ไม่เพียงพอ

วันที่ ( 6 มิ.ย. 66 ) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าทำเนียบรัฐบาล ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกหลังเลือกตั้ง โดยระบุ ที่ผ่านมาได้ไปปฏิบัติราชการที่ต่างประเทศ และลาราชการต่อเนื่อง ทั้งนี้ในงานรับผิดชอบ หลักของกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวง เป็นผู้ดำเนินการ  โดยเฉพาะประเด็นบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งหมอ พยาบาล ทยอย ลาออก ทั้งนี้หากมีการสอบถาม ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ก็รอพร้อมชี้แจง ในทุกประเด็น

ด้าน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีแพทย์เพิ่มพูนทักษะ (หมอจบใหม่) ลาออก ซึ่งเป็นกระแสข่าวในสื่อโซเซียลมีเดียที่มีประชาชนให้ความสนใจขณะนี้ ว่า ยืนยันไม่เคยมีนโยบายไม่รับหมอจบใหม่ มีแต่อยากรับเพิ่ม ซึ่งแต่ละปีรับเพิ่มประมาณ 2,000 คน แต่ยังคงไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน และทำให้หมอยังมีภาระงานที่หนัก ส่วนหมอจบใหม่ที่ลาออกแต่ละปีมีประมาณ 10% ส่วนหนึ่งไปศึกษาต่อ พร้อมกล่าวขอบคุณ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อนุมัติบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มจำนวน 45,000 อัตรา ในช่วงโควิด-19 ทำให้ความกดดันลดลง แต่ยังคงมีอยู่ และยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ทุกอย่างอยู่นอกการควบคุมของกระทรวงฯ ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการใช้บุคลากร และงบที่มีอยู่อย่างจำกัด และต้องขอบคุณหมอพยาบาลที่เสียสละทุ่มเท เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดี อย่างไรก็ตามต้องใช้มาตรการหลายส่วน เพื่อรักษาจำนวนบุคลากรไว้ สิ่งสำคัญคือค่าตอบแทน สวัสดิการ ความก้าวหน้าในอาชีพ และภาระงาน ซึ่งขณะนี้กระทรวงฯ ได้เพิ่มค่าตอบแทนในส่วนที่ทำได้ และปรับเปลี่ยนภาระงานให้เกิดความสมดุล โดยเคลื่อนย้ายบุคลากรระหว่างโรงพยาบาลได้ เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง