ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อธิบดีกรมสรรพสามิต สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเร่งด่วน หลังมีบุคคลปริศนา อ้างตัวเป็นข้าราชการระดับสูงในกรม ขอเคลียร์คดีตำรวจ กรณีจับกุมรถบรรทุกขนน้ำมันเถื่อน
สั่งสอบอ้างเป็น บิ๊กสรรพสามิต เคลียร์คดีขนน้ำมันเถื่อน
เป็นประเด็นขึ้นมาทันที ภายหลังกองบังคับการตำรวจทางหลวง สามารถสกัดจับรถบรรทุกขนน้ำมันเถื่อนได้ 1 คัน เหตุเกิดบริเวณริมถนนเพชรเกษม ขาเข้า ตำบลเกาะหลัก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยควบคุมตัว นายสมบัติ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นคนขับไว้ได้ แต่ระหว่างจับกุม มีข้าราชการระดับสูงของกรมสรรพสามิต โทรศัพท์มาเจรจาขอให้ไม่มีการจับกุมนั้น
ล่าสุด นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเร่งด่วน โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.ผู้โทรศัพท์มาขอเจรจา เป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตจริงหรือไม่ 2.ตรวจสอบว่าน้ำมันจำนวนดังกล่าว เป็นน้ำมันเถื่อน หรือเป็นน้ำมันที่ขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น
ตร.ยันไม่สนอ้างเป็น บิ๊กสรรพสามิต เคลียร์คดี
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้มีคำสั่งเรียกตำรวจทางหลวง ชุดจับกุมรถบรรทุกขนน้ำมันเถื่อนเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นทราบว่า ช่วงเกิดเหตุมีบุคคลอ้างตัวเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกรมสรรพสามิต โทรศัพท์มาเคลียร์ชุดจับกุมจริง แต่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธ
จากนั้นมีความพยายามติดต่อมายังคณะทำงานของตนเอง เพื่อเจรจาขอไฟเขียวต่าง ๆ แต่ตนเองปฏิเสธ ไม่ขอพูดคุยเจรจาด้วย ส่วนการจับกุมดังกล่าว อาจเกี่ยวข้องขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ ที่จะนำน้ำมันไปส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
จากการเก็บตัวอย่างน้ำมันไปตรวจสอบ พบว่าเป็นน้ำมันดีเซล ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารใบกำกับการขนส่ง และไม่มีใบกำกับภาษีมาแสดง ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตประจวบคีรีขันธ์ จึงแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 203 (1) มีไว้ในครอบครอง ซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี
