ข่าวภาคค่ำ - การทุจริตของเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ที่ปลอมแปลงสัญญาเงินกู้ยักยอกเงินสมาชิก ใกล้จะได้ข้อสรุปขึ้นมาทุกทีแล้วว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่การเงินเพียงคนเดียว คุณชนะชัย แก้วผาง ลงพื้นที่ติดตามเรื่องนี้ มีรายละเอียดในคอลัมน์หมายเลข 7
นายสำลีอายุ 78 ปี ในอำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น เป็นหนึ่งในชาวบ้าน 14 คน ที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังถูกเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ปลอมลายเซ็น ทำเอกสารกู้ยืมเงิน 8 แสนบาท ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2564 ซ้ำยังเขียนระบุวัตถุประสงค์ในสัญญาด้วยว่า นำเงินไปซื้อโคขุน เลี้ยงเพื่อขาย 40 ตัว กระทั่งชายสูงวัย มารู้ตัวอีกที เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยค้างชำระกว่า 1 ล้านบาท
แม้ก่อนหน้านี้ สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย จะทำเอกสาร ยืนยัน ล้างหนี้ที่เกิดจากการปลอมแปลงขึ้นมาให้ผู้เสียหายไปแล้วบางราย แต่ชาวบ้านยังกังวลใจ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และขยายผลเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนร่วมยักยอกเงินในสหกรณ์
ความไม่สบายใจและไม่มั่นใจว่าเอกสารยืนล้างหนี้ที่เกิดจากการปลอมแปลง ซึ่งได้รับจากเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ จะมีผลในทางกฎหมายจริงหรือไม่ คอลัมน์หมายเลข 7 จึงพาชาวบ้านที่เป็นหนี้ไม่รู้ตัว เข้าไปขอสำเนาเอกสารเงินกู้กับทางสหกรณ์ฯ เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจ ก่อนพบข้อมูลเอกสารที่ถูกปลอมเกือบ 40 คน แต่ละคนถูกปลอมสัญญากู้เงินหลักแสน และถูกเรียกดอกเบี้ยเพิ่มไปจนถึงหลักล้านบาท
ที่น่าสังเกต คือ ในเอกสารแต่ละฉบับ มีลายมือชื่อเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยร่วมเซ็นอยู่ด้วยคน
และบางคนเข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ ที่มีส่วนร่วมแล้ว
เรื่องราวความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย เป็นวงกว้าง ทำให้เวลานี้ทางสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น ใช้อำนาจนายทะเบียน สั่งคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย จำนวน 13 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เป็นเวลา 15 วัน และเปิดทางให้คณะกรรมการผู้ตรวจการเข้าไปตรวจสอบเอกสารเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะได้หลักฐานเพิ่มเติมจนเข้าถึงตัวการสำคัญหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่เกินสิ้นเดือนนี้
