สนามข่าว 7 สี - คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. สั่งนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ 47 หน่วย ทั้งแบ่งเขต-บัญชีรายชื่อ หลังพบผลคะแนนไม่ตรงจำนวนบัตรและผู้มาใช้สิทธิ เผยอาจมีผลต่อการเปลี่ยนจำนวน สส.แต่ละพรรค
ระทึก! กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ 47 หน่วย เผยอาจมีผลต่อจำนวน สส.แต่ละพรรค
มีรายงานว่า ที่ประชุม กกต. มีมติสั่งให้นับคะแนนใหม่ สส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่ 31 หน่วยเลือกตั้ง และ สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 16 หน่วยเลือกตั้ง จากที่ลงคะแนนทั้งหมด 95,000 หน่วย
เป็นไปตามที่สำนักงาน กกต. เสนอว่า มีกรณีที่พบว่ามีปัญหาบัตรเลือกตั้งและจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมีจำนวนตรงกัน แต่ผลคะแนนไม่ตรงกับจำนวนดังกล่าว และ กกต.เห็นว่าอาจมีผลต่อคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ และมีผลต่อลำดับของผู้ได้รับเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เปิดเผยว่า 47 หน่วยเลือกตั้งที่ให้นับคะแนนใหม่ คือหน่วยเลือกตั้งใด จังหวัดใด โดยอยู่ระหว่างทำคำสั่งเสนอประธาน กกต. ลงนาม และแจ้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบ ซึ่งตามแผนของสำนักงานเล็งนับคะแนนใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายนนี้ เนื่องจากเมื่อได้ผลคะแนนแล้ว จะต้องนำมาคิดคำนวณสัดส่วน สส.ใหม่ ให้ทันกับแผนงานที่ กกต.เตรียมประกาศรับรองผลการเลือกตั้งภายในเดือนนี้
ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เมื่อคืนนี้ โพสต์ข้อความประชาธิปไตยต้องไปต่อ กกต.ต้องรับรองผลการเลือกตั้งทันที โดยระบุการเลือกตั้งเป็นเจตจำนงของประชาชนที่ต้องการให้ 8 พรรคการเมือง จัดตั้งรัฐบาล แต่ปรากฏมีการขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จะไปยื่นหนังสือต่อ กกต. ให้รับรองผลการเลือกตั้งทันที และไม่รับรองคำร้องกรณีถือหุ้นของ คุณพิธา ไว้พิจารณา โดยนัดหมายที่หน้าสำนักงาน กกต. บ่ายวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาคอยดูแลความปลอดภัยแล้ว โดยจะประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ๆ ด้วย
8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล เดินหน้าทำให้สำเร็จ
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวาน 8 พรรค ประชุมกันอีกครั้งที่พรรคเพื่อไทย มีแกนนำเข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยได้กำหนดไทม์ไลน์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลัง กกต.จะเร่งรับรอง สส.ให้เร็วขึ้น 2-3 สัปดาห์ เพื่อวางกรอบการทำงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งการประชุมครั้งต่อไป จะเป็นที่พรรคไทยสร้างไทยวันอังคารหน้า และพร้อมวางแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเร่งหาข้อสรุประหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ คุณพิธา ยอมรับ ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
พิธา พร้อมชี้แจงค้ำประกันเงินกู้
ส่วนประเด็นใหม่ที่ว่า คุณพิธา ค้ำประกันหนี้สินจำนวนหนึ่ง โดยไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. จะมีผลต่อคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เรื่องนี้ คุณพิธา มั่นใจไม่มีปัญหา เพราะได้ประสานงานกับ ป.ป.ช.อยู่ตลอด หากมีคนร้องจริงก็ยินดีที่จะตอบ ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลหรือมีปัญหาแต่อย่างใด
