สนามข่าว 7 สี - มีคำยืนยันอีกครั้งจากปาก คุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ว่า คุณพ่อ คือ คุณทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือนหน้า
เทียบเหมือน-ต่าง ทักษิณกลับไทย ปี 51 VS ปี 66
ถ้าหาก คุณทักษิณ กลับมาจริง ก็ต้องบอกว่ามีความคล้ายคลึงค่อนข้างมาก กับการเดินทางกลับประเทศไทยในปี 2551 แต่ก็มีประเด็นที่แตกต่างกันด้วย
เชื่อว่าหลายคนคงจำภาพ คุณทักษิณ ก้มกราบแผ่นดินได้ เป็นการกลับประเทศไทยหลังรัฐบาลของคุณสมัคร เข้าบริหารประเทศไม่ถึงหนึ่งเดือน หากนำมาเทียบเคียงกับการกลับบ้านรอบ 2 ของ คุณทักษิณ ถือว่า มีความเหมือนตรงที่กลับมาในวันที่พรรคการเมืองของ คุณทักษิณ ก้าวเข้าสู่อำนาจ โดยในปี 2551 เป็นพรรคพลังประชาชน ส่วนล่าสุด คือ พรรคเพื่อไทย แม้ยังไม่ชัดเจนว่าในวันที่ คุณทักษิณ เหยียบแผ่นดินไทย พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง แต่ที่แน่นอนแล้วคือ อำนาจน่าจะอยู่ในมือพรรคเพื่อไทย
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คำยืนยันหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจากตัว คุณทักษิณ หรือ คุณอุ๊งอิ๊งค์ ที่บอกว่า จะไม่มีการใช้อำนาจใด ๆ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเดินทางกลับประเทศไทยครั้งนี้ โดยจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า ถ้าต้องการให้เป็นอย่างนั้นจริง เหตุใด คุณทักษิณ จึงเลือกที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่พรรคการเมืองของตัวเองมีอำนาจเท่านั้น
แต่อำนาจจากฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ใบเบิกทางที่จะทำให้ คุณทักษิณ รอดพ้นจากกระบวนการยุติธรรมได้ โดยหากเทียบกันในปี 2551 คุณทักษิณ เข้ามาแบบมั่นใจว่าจะชนะคดีที่ดินรัชดา ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก่อนจะต้องหนีคดีออกไปต่างประเทศ ก่อนที่ศาลฎีกาฯ จะมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งปัจจุบันคดีนี้ขาดอายุความแล้ว อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องออกนอกประเทศยาวนาน 17 ปี จนถึงปัจจุบัน
ส่วนในครั้งนี้ หาก คุณทักษิณ กลับมาจริง ก็ต้องเจอกับคำพิพากษาใน 3 คดีที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้ว มีโทษจำคุกรวม 10 ปี ประกอบด้วย คดีหวยบนดิน จำคุก 2 ปี คดีที่ 2 กรณีผลประโยชน์ทับซ้อน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาท ให้รัฐบาลเมียนมา ศาลลงโทษจำคุก 3 ปี และคดีที่ 3 แปลงสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเอื้อชินคอร์ป ศาลสั่งจำคุก 5 ปี รวมโทษที่รออยู่ 10 ปี
โดยหาก คุณทักษิณ เข้ามาแบบใช้กติกาปกติ ขั้นตอนที่จะขอพระราชอภัยโทษ มี 2 ช่องทาง คือ การได้รับอภัยโทษผ่านการออกพระราชกฤษฎีกา ในวาระพิเศษ ซึ่งต้องผ่านการรับโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 เสียก่อน ส่วนอีกช่องทางหนึ่ง คือ การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการส่วนตัว ซึ่งสามารถยื่นได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับโทษในเรือนจำ ส่วน คุณทักษิณ จะเลือกใช้แนวทางไหน คงต้องรอดูกันต่อไป
ลือ ครอบครัวชินวัตร เบรกกลับไทย หวั่น ทักษิณ ถูกหลอก
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ครอบครัวชินวัตร ได้หารือกันเป็นการภายในเกี่ยวกับการกลับประเทศไทยของ คุณทักษิณ โดยเบื้องต้นอยากให้ชะลอกำหนดการที่เดิมวางไว้เป็นเดือนหน้า ออกไปก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าจะถูกหลอกหรือไม่ อยากให้พิจารณาใหม่หลังตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังไม่เห็นด้วยที่ คุณอุ๊งอิ๊งค์ จะรับเป็นนายกรัฐมนตรี หาก คุณพิธา พลาดตำแหน่งนี้ เพราะเห็นว่า คุณอุ๊งอิ๊งค์ ยังไม่พร้อม และอายุยังน้อย อยากให้รอไปอีก 5 ปี ด้วยเพราะสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ และยังมี คุณเศรษฐา ทวีสิน ที่เหมาะสมกับสถานการณ์นี้ ที่ต้องการคนที่เชี่ยวชาญเศรษฐกิจมากกว่า ชั่วโมงบินของคุณ อุ๊งอิ๊งค์ ยังไม่พอ ซึ่งคุณพ่ออย่าง คุณทักษิณ ก็เข้าใจ
