แจ้งจับ “พันโท” หลอกฝากเข้ารับราชการ ตุ๋นเงินชาวบ้านหลายแสนบาท

แจ้งจับ “พันโท” หลอกฝากเข้ารับราชการ ตุ๋นเงินชาวบ้านหลายแสนบาท

View icon 8.7K
วันที่ 8 มิ.ย. 2566 | 11.56 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
หนุ่มอาชีพรับซื้อซากรถเก่าหวังให้เมียสมัครเข้าเป็นตำรวจแต่ผิดหวัง ถูกพันโทครูฝึกการบินหลอกสอบรับ ผู้เสียหายหลงเชื่อสูญเงิน 250,000 บาท  ไปทวงเงินคืนกลับบ่ายเบี่ยง

วันนี้ ( 8 มิ.ย.66)  นายชัยวัฒน์ อายุ 35 ปี ประกอบอาชีพซื้อซากรถเก่า อยู่หมู่ 6 ต.โคกกะเทียม อ.เมือง จ.ลพบุรี เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังจากถูกนายทหารยศพันโทครูฝึกการบินหลอกโอนเงินจำนวน 250,000 บาท เพื่อไปเดินเรื่องอ้างสามารถติดต่อเข้ารับราชการได้ ทั้งทหารและตำรวจ แต่หลังจากประกาศผล ปรากฏว่าไม่มีชื่อของภรรยาของตน หลังจากนั้นได้ไปทวงถามเอาเงินคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยมาโดยตลอด

นายชัยวัฒน์  เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเพื่อนร่วมอาชีพรุ่นพี่โทรมาบอกกับตนว่า มีคนสามารถพาเข้าสมัครสอบเป็นข้าราชการทหารและตำรวจได้พร้อมให้หมายเลขติดต่อไปหานางเหมี่ยว ซึ่งตนเองสนใจเพราะเห็นว่าภรรยาตนอยู่บ้านว่างงาน ด้วยความที่อยากให้ภรรยามีอนาคตที่ดี มีหน้าที่การงานมั่นคง  จึงโทรติดต่อหานางเหมี่ยว ผู้ประสานติดต่อไปยัง พันโทสมพงษ์  ซึ่งรับราชการครูฝึกการบินศูนย์การบิน จังหวัดลพบุรี  ยืนยันกับตนและภรรยาว่าสามารถช่วยให้เข้ารับราชการได้ หากสนใจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 400,000 บาท โดยจะต้องจ่ายก่อนครั้งแรก 250,000 บาท หลังจากนั้นต่อมาเมื่อวันที่ 15 กันยายน 17.41 น. จากนั้นทั้ง 2 คน ได้เดินทางมาที่บ้านผู้เสียหาย โดยพันโทสมพงษ์ ให้ทำหนังสือสัญญา ก่อนที่ภรรยาตนจะโอนเงินจากบัญชี จำนวน 250,000 บาท ไปยังบัญชีของพันโทสมพงษ์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

โดยพันโทสมพงษ์ ยังยืนยันว่าได้ผล 100% จนกระทั้งภรรยารอไปสอบตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ก็ยังไม่ได้ไปสอบ จนมีประกาศผลสอบออกมาแต่ไม่มีรายชื่อภรรยาตน จึงสอบถามไปยังพันโทสมพงษ์ ก็อ้างว่า รายชื่อของผู้แจ้งเป็นการบรรจุภายในให้รอถึงวันที่ 4 มีนาคม 2566 ก็ไม่มีการบรรจุแต่อย่างใด พวกตนจึงไปขอเงินคืนจากพันโทสมพงษ์ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด ไปแจ้งทางผู้บังคับบัญชาของพันโทสมพงษ์ ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ล่าสุดพันโทสมพงษ์ ได้นัดหมายจะนำเงินทั้งหมดมาให้ภายในวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าคราวนี้ไม่สามารถติดต่อได้ แต่พอมีข่าวลงในโซเชียล ทางผู้บังคับบัญชาของพันโทสมพงษ์ กลับโทรมาติดต่อขอให้ทางหน่วยทำเรื่องไล่พันโทสมพงษ์เสียก่อน ค่อยไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจทางหน่วยทำไมปกป้องการกระทำความผิดของผู้ใต้บังคับบัญชารายนี้

ล่าสุดนางสาวณัฐธิดา อายุ 31 ปี ได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์กับพันตำรวจโทวิโรจน์ เสาทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เป็นที่เรียบร้อแล้วเพื่อให้ทางตำรวจได้ประสายไปยังหน่วนทหารนำตัวพันโทสมพงษ์ มาสอบสวนปากคำ และพวกอีก 2 คน เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมาย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายไหว ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้เหยื่อเล่าว่า  ตนเองรู้จักกับนางเหมี่ยวในฐานะเพื่อน คุยกันเป็นประจำ และนางเหมี่ยวเคยบอกเอาไว้ว่ามีนายทหารยศนายพันโทสามารถฝากเข้าทำงานรับราชการได้ มีใครสนใจก็ให้ติดต่อมา หลังจากนั้นตนเองคิดได้ว่านายชัยวัฒน์เพื่อร่วมงาน มีภรรยาว่างงานอยู่จึงหวังดีบอกต่อกันไปแล้วให้เบอร์โทรศัพท์นางเหมี่ยว หากสนใจก็ให้โทรไปพูดคุยรายละเอี่ยดกันเอง ส่วนตัวพันโทสมพงษ์ ตนไม่เคยรู้จักเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด และไม่เคยเห็นหน้า ตนเองรู้สึกลำบากใจตอนนี้ที่ทำให้เพื่อนร่วมงานที่รู้จักกันดีต้องมาเสียเงิน

ส่วนนางเหมี่ยว ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์ เล่าว่า ตนมีรายได้จากการรับจ้างเดินเรื่องต่อทะเบียน ต่อ พรบ.รถ ทำประกันรถ ประกอบกับมีญาติพักอาศัยในหน่วยทหารดังกล่าว  จึงมีการประสานหาลูกค่าต่อทะเบียน พรบ.รถให้ จนมารู้จักกับพันโทสมพงษ์ จากนั้นพันโทสมพงษ์ ยังหาลูกค้าให้จนสนิทกันดี แต่ภายหลังพันโทสมพงษ์ มาบอกว่ามีใครที่มีลูกหลานอยากเป็นข้าราชการผมสามารถฝากได้ และหากตนหาตนมาได้จะให้เงินค่าตอบแทนเป็นราย ด้วยความอยากได้เงินตนเองเจอคนรู้จักก็จะบอกข่าวให้ทราบหากมีใครอยากฝากลูกหลานเข้าทำงานรับราชการก็จะพาไปพบกับพันโทสมพงษ์ จนมีเหยื่อถูกหลอกหลายราย แม้แต่ญาติตนอีก 2 ราย ยังถูกพันโทสมพงษ์ หลอกไปด้วยสูญเงินไป 400,000 บาท   

ขณะที่ยังมีเหยื่อผู้เสียหายถูกพันโทสมพงษ์ หลอกในนองเดียวกันสูญเงินไปอีกกว่า 2 แสนบาท ซึ่งผู้สื่อข่าวสามารถติดต่อทางโทรศัพท์พูดคุยกับเหยื่ออีกรายฃื่อนางสาวส้ม ผู้เสียหายอีกรายเล่าว่า เล่าวว่า ได้รู้จักกับพันโทสมพงษ์ โดยเพื่อนบ้านแนะนำมาติดต่อขอกู้เงินจำนวน 90,000 บาท พร้อมเสนอให้ดอกเบี้ยร้อยละ 15 บาทต่อเดือนในช่วงเวลา 3 เดือน โดยบอกมีความจำเป็นเพื่อนำเงินไปเดินเรื่องฟ้องหย่าภรรยา โดยนำบัตรข้าราชการ บัตรเอทีเอ็ม สมุดบัญชีธนาคาร เอามาเป็นหลักฐานยืนยันเพื่อค่ำประกันไว้ แถมอ้างอีกว่าปีหน้าจะได้เลื่อนยศเป็นพันเอกทำให้ดูน่าเชื่อถือขึ้น จึงตกลงนัดมาทำสัญญาโอนเงินไปให้ ต่อมาพันโทสมพงษ์ได้พูดสอบถามทางบ้านพวกตนทำงานอะไรกัน มีใครอยากทำงานสามารถเอาเข้ารับราชการได้แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 25 เปอร์เซ็นต์ พวกตนก็เชื่อสนใจที่จะเอาหลานชายเข้าทำงานได้ตอบตกลง พันโทสมพงษ์ ยังบอกยืนยันด้วยว่าสามารถเอาหลานชายเข้าทำงานรับราชการทหารที่ศูนย์การบินทหารบกได้อย่างแน่นอน พอมาระยะหลังพันโทสมพงษ์ ได้ติดต่อกับมาอ้างว่าขอเงินเป็นค่าเดินเรื่องและให้นายเป็นช่วง ๆ ตนโอนไปให้รวมทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 165,000 บาท สุดท้ายไม่ได้อะไรสักอย่างแถมถูกหลอกเอาไปทั้งหมด 255,000  บาท