วิโรจน์ ส่งหลักฐานส่วยถึงตำรวจ ลั่น ส่วยสติกเกอร์พัวพันถึงอัยการ

วิโรจน์ ส่งหลักฐานส่วยถึงตำรวจ ลั่น ส่วยสติกเกอร์พัวพันถึงอัยการ

View icon 251
วันที่ 8 มิ.ย. 2566 | 14.20 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
วิโรจน์ ส่งหลักฐานส่วยถึงตำรวจ ลั่น ส่วยสติกเกอร์พัวพันถึงอัยการ แฉอภินิหารแก้สำนวนฟ้องศาล ชี้ผู้ประกอบการจำยอมต้องทำผิด

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อนำเอกสารหลักฐานที่สมาพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำมามอบให้กับพรรคก้าวไกล ไปส่งต่อให้กับพล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบกรณีส่วยทางหลวง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

นายวิโรจน์ เผยว่า ข้อมูลที่ให้ส่วนใหญ่ที่จะให้ตำรวจวันนี้ จะเป็นเบาะแสไปถึงส่วยสติกเกอร์ แต่หลักฐานวันนี้เป็นเบาะแสปลายทาง ส่วนข้อมูลเชิงลึกการสอบสวนการโยงใยต่างๆ รวมไปถึงการขยายผล ต้องให้ตำรวจเป็นคนทำ เพราะตำรวจมีกำลัง มีทีมสืบสวนสอบสวน และเทคโนโลยี ตนเองมั่นใจว่า วันนี้ข้อมูลที่ทางตำรวจได้มาจะมีข้อมูลที่ลึกกว่าที่ตนเองมี

สำหรับการคาดหวังสิ่งแรกที่เชื่อว่าจะมีการแก้ไข คือ เรื่องของการเรียกรับผลประโยชน์ หรือ พฤติกรรมในการกลั่นแกล้งรังควานรังแก สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการที่สุจริต เรื่องที่ 2 คือ นอกจากส่วยสติกเกอร์แล้ว ปัญหาที่มีการเรียกรับผลประโยชน์ การพิจารณาดำเนินคดี กับผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนก็ควรจะต้องถูกดำเนินคดี และต้องถูกยึดใบประกอบกิจการโรงงานด้วย ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นทาง

ส่วนเรื่องการค้าสำนวน ของพนักงานสอบสวนบางคน น้ำหนักบรรทุกจำกัดอยู่ที่ 50.5 ตัน แต่บางครั้งการเข้าด่านชั่งเกินมา 100 กก.หรือ 200 กก.ซึ่งกรณีนี้ตนเองมองว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะบรรทุกน้ำหนักเกิน เพราะส่วนใหญ่คนที่ตั้งใจบรรทุกเกิน แต่ละครั้งจะเกินมากกว่า 30-50 ตัน แต่ด้วยกฎหมายที่มีโทษถึงขั้นยึดรถ ทำให้พนักงานสอบสวนบางคน เอาความผิดที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้มีเจตนา ใส่ไว้ในสำนวนด้วย และมีการเรียกรับผลประโยชน์ว่า ถ้าจะให้ใส่ข้อความนี้ลงในบันทึกการสอบสวนก็จะต้องจ่ายผลประโยชน์มา เมื่อจ่ายผลประโยชน์มาแล้วก็จะสร้างสัญญาเช่ารถเท็จ ซึ่งสัญญานี้จะเปลี่ยนจากพนักงานผู้ขับรถ กลายเป็นผู้เช่ารถมาขับ ก็จะทำให้รถไม่ถูกยึด

นอกจากนี้ ยังมีส่วนพัวพันไปถึงอัยการบางท่าน เพราะว่าหากปรากฏว่า ศาลชั้นต้นส่วนใหญ่จะพิจารณาตามความเป็นธรรม ปรับ 3-5 พันบาท อัยการบางท่านจะ อุทธรณ์ต่ออีกรถคันนั้น ก็จะถูกอายัดต่ออีก ซึ่งราคารถ 1 คัน 3-5 ล้านบาท บางครั้งต้องผ่อน และหากรถถูกยึดก็อาจจะเป็นโทษที่ไม่ได้สัดส่วน

นายวิโรจน์ ย้ำว่าการพาดพิงไปถึงพนักงานสอบสวนหรืออัยการบางท่านเท่านั้น และข้อมูลส่วนหนึ่งที่นำมามอบให้จเรตำรวจวันนี้ ก็จะมาทางสมาพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และพลเมืองดี รวมไปถึงแหล่งข่าว ที่นำมามอบให้กับตนเอง และยืนยันว่า จะเหมารวมผู้ประกอบการรถบรรทุกทำผิดกฎหมายไม่ได้

ขณะที่ พล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้ามาติดตามเรื่องนี้และจะดูให้ครบถ้วนมากที่สุดว่า เรื่องนี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ไม่ว่าจะตำรวจทางหลวง หรือ ตำรวจอื่นใด หากมีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำทั้งหมด เชื่อว่าไม่ได้ทำเฉพาะตำรวจทางหลวงแน่นอน หากสืบไปถึงไหนก็จะดำเนินการไปถึงนั้น ซึ่งหากใครมีข้อมูลเรื่องส่วยเพิ่มเติมสามารถส่งมาที่จเรตำรวจได้