อธิการบดี ม.หอการค้าไทย หวั่นอุบัติเหตุทางการเมือง "พิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ" อาจฉุดเศรษฐกิจ? โตเพียง 2.5-3%

อธิการบดี ม.หอการค้าไทย หวั่นอุบัติเหตุทางการเมือง "พิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ" อาจฉุดเศรษฐกิจ? โตเพียง 2.5-3%

View icon 181
วันที่ 8 มิ.ย. 2566 | 18.47 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (8 มิ.ย. 66) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าววว่า ความไม่แน่นอนสถานการณ์ทางการเมือง รวมทั้งนโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และปัญหาเสถียรภาพระบบการเงินสหรัฐอเมริกา สงผลให้ภาคธุรกิจเริ่มกังวล

ทั้งนี้หากภายในเดือน ส.ค. 2566 สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ผลักดันงบปี 2566 ออกมาใช้ได้ ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยทั้งปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 25-28 ล้านคน มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ตามเป้าหมาย 3-3.5% แต่หากไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ภายใน ส.ค. 2566 เศรษฐกิจจะโตได้เพียง 3% เท่านั้น เพราะผู้บริโภค นักธุรกิจ รวมถึงนักลงทุน จะลังเลกับการตั้งรัฐบาล ทำให้มีการชะลอการใช้จ่าย การทำธุรกิจ และการลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจน ว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร โดยพรรคใดเป็นแกนนำ แต่หากมีการเปลี่ยนขั้วพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและสามารถตั้งรัฐบาลได้โดยใช้ขบวนการรัฐสภา คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะยังโตได้ ที่ 3.5%

แต่หาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และเกิดมีการชุมนุมประท้วงนอกสภา จะส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจไทยชะงัก ภาคการค้า การลงทุน โดยเฉพาะจากต่างประเทศ จะมีปัญหา และอาจส่งผลกระทบฉุดให้เศรษฐกิจไทยโตต่ำลงเหลือ 2.5-3% ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง