ข่าวภาคค่ำ - ภูเก็ตวุ่น ท้องเสียระบาด เด็ก-ผู้ใหญ่เกือบครึ่งพันเข้าโรงพยาบาล พบผู้ป่วยใน 3 อำเภอ คาดเกิดจากเชื้อไวรัสโนโรและไวรัสโรต้า รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย ส่งเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างน้ำและน้ำแข็งส่งตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด
นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยความคืบหน้า กรณีเกิดการระบาดโรคทางเดินอาหารและน้ำในจังหวัดภูเก็ต พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเข้าโรงพยาบาลภาครัฐ เฉลี่ย 50 รายต่อวัน โรงพยาบาลเอกชนเฉลี่ย 100 รายต่อวัน กระจายหลายกลุ่มอายุในหลายพื้นที่ รวมทั้งพบนักเรียนป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงกระจายในหลายโรงเรียน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย และบางรายมีไข้ซึ่งพบทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน แต่พบการกระจายของโรคทั้ง 3 อำเภอ อำเภอเมือง อำเภอกะทู้ อำเภอถลาง
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เชื้อโรคน่าจะปนเปื้อนมาจากน้ำดื่มและน้ำแข็ง ในส่วนควบคุมโรคและเภสัชกร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงผลิตน้ำแข็งที่ส่งออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต ประมาณ 6 แห่ง เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำแข็ง และตัวอย่างน้ำไปทำการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ
สำหรับเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) เป็นไวรัสทำให้เกิดโรคทางเดินอาหาร อยู่ในอุจจาระและสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 2 สัปดาห์ แพร่ระบาดได้ง่ายช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ติดต่อจากการกินอาหาร น้ำดื่ม หรือน้ำแข็งที่มีการปนเปื้อน หรือเอามือไปสัมผัสเชื้อตามพื้นผิวต่าง ๆ แล้วหยิบอาหารเข้าปาก ติดต่อได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก
หลังรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ประมาณ 12-48 ชั่วโมง จะเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ ปวดท้อง และอาจมีไข้ ปวดหัว เพลีย ปวดเมื่อยตามตัว ส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 1-3 วัน
