ชูวิทย์ แฉแผนพิฆาต พิธา นั่งนายกฯ ดูเหมือน “ยกคำร้อง” แต่กลายเป็น “หนักกว่าเดิม” คงอีกนานจะรู้ใครนั่งนายกฯ ถามประชาธิปไตยไทย ทำไมยุ่งยากนัก
จากกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องของผู้ร้องทั้ง 3 คน ที่ขอให้วินิจฉัยปมถือหุ้นสื่อไอทีวี 42,000 หุ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากยื่นเกินระยะเวลาที่จะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา กรณีร้องว่าผู้สมัครรายใดขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. แต่เห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎต่อ กกต.นั้น
ล่าสุด วันนี้ (10 มิ.ย.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนักธุรกิจ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับประเด็น 'แผนพิฆาต' ระบุว่า ระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกให้เสียงคนส่วนมากลงคะแนน ฝ่ายใดรวมกันได้เกินครึ่งเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ หัวหน้าพรรคคะแนนมากสุดเป็น “นายกฯ”
แต่ประเทศไทย เลือกตั้งไปแล้ว คะแนนก็เห็นกันหมด จนถึงวันนี้ยังไม่รู้ทิศทาง วนเวียนอยู่กับ “หุ้นสื่อ” ตีความไปมา ร้องกันไม่หยุดหย่อน ยอกย้อนซ่อนเงื่อน ประเทศตุรกีเลือกตั้งพร้อมกับไทย แค่ 3 วัน ได้รับมอบทำงานต่อ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนอย่างไทย
คาดว่าอีกนานกว่าจะรู้ “ใครเป็นนายกฯ?” แค่หุ้นสื่อที่ปิดไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้ แต่ก็จะเอาให้ได้ กกต. ดูเหมือน “ยกคำร้อง” แต่กลับเป็นว่า “หนักกว่าเดิม” นี่ยังไม่พูดถึงเรื่อง สว. ที่ต้องมา “ช่วยเลือก” นายกฯ อีก ทำไมระบอบประชาธิปไตยเรามันถึงยุ่งยากมากนักวะ!?
