ตำรวจ PCT แกะรอยจับ "อาฟู่" คนสนิทบอสใหญ่มังกรจีน เกาะกง แปลภาษาถ่ายทอดเทคนิคให้ลูกทีมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ปลอมโพรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ-สาวสวย นำไปพูดจูงใจหว่านล้อมเหยื่อให้หลงเชื่อลงทุนเงินดิจิทัล คนไทยสูญเงิน 16 ล้าน
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ระบาดหนักในตั้งแต่ปี 65 จนถึงปัจจุบัน สร้างโพรไฟล์หนุ่มหล่อ-สาวสวย ปลอมออกอุบาย ทำทีเข้ามาติดต่อพูดคุย ตีสนิทจนกลุ่มผู้เสียหายตายใจตกเป็นเหยื่อ บางคนถึงขั้นหลงรัก หลอกให้ร่วมลงทุนจนหมดตัว สูญเงินหลายล้านบาท สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าศูนย์ PCT ชุดที่ 5 เร่งติดตามสืบสวน ขยายผล จนสามารถออกหมายจับสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสามารถเข้าจับกุมเครือข่ายสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง จำนวน 6 คน
ผู้ต้องหาได้ให้ข้อมูลว่าตัวการสำคัญ คือ นายสุรชัย หรืออาฟู่ ล่ามภาษาไทย-จีน เป็นคนสนิทของบอสใหญ่แก๊งมังกรจีน ถือเป็นตัวการสำคัญในขบวนการนี้ ซึ่งทำหน้าที่แปลเทคนิค ขั้นตอนการเรียนรู้ การพูดจูงใจ สร้างแรงบันดาลใจ ในการนำมาใช้หลอกลวงเหยื่อโดยเฉพาะ เป็นการถ่ายทอดเทคนิคจากบอสใหญ่ให้แก่พนักงานลูกจ้างที่ทำหน้าที่ แถว 1 แถว 2 และแถว 3 อย่างเป็นระบบ ไม่ต่างจากรูปแบบบริษัททั่วไป สร้างมูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามมานานกว่า 1 ปีอย่าง
ล่าสุดวานนี้ (13 มิ.ย.66) ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 และชุดสืบสวนนครบาล นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสุรชัย หรืออาฟู่ อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันฟอกเงิน จับกุมตัวบริเวณหน้าหอพักคนงาน ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ในชั้นจับกุม นายสุรชัย ให้การภาคเสธว่า ประมาณปี 64 ตนกับนายสุรจิต (น้องชาย) ได้สมัครงานผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อไปเป็นล่ามแปลภาษา จีน-ไทย ที่สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา โดยจะได้ค่าตอบแทนประมาณ 3-4 หมื่นบาท เมื่อตนกับน้องชายเดินทางไปถึงกัมพูชา ก็ถูกพาไปทำงานที่ “เกาะกง” โดยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาจีนจากหัวหน้าชาวจีน ซึ่งไม่ทราบชื่อจริง แต่พนักงานที่นั้นจะเรียกกันว่า “หยู่เกอ” โดยตนจะทำหน้าที่ล่ามแปล คำพูดของนายหยู่เกอเป็นภาษาไทยให้กับพนักงาน
นายสุรชัย บอกว่า สถานที่ที่คนไทยไปทำงาน เป็นงานในลักษณะคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้ลงทุนซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล คริปโทเคอเรนซี ซึ่งนายหยู่เกอ เป็นคนสร้างแอปพลิเคชันปลอมขึ้น หลังจากทำงานได้ 6 เดือน ก็หลบหนีกลับไทย และได้เปิดกิจการร้านเหล้า ที่ จ.เชียงราย กระทั่่งถูกจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬา จ.ปทุมธานี
ในชั้นสืบสวนทราบว่า แผนประทุษกรรมของแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนี้ จะเป็นเริ่มเปิดปฏิบัติการโดยจะใช้โปรแกรมสร้างแพลตฟอร์มปลอมที่ชื่อว่า “surlars-pro.com” และ “biteeb.com” เพื่อหลอกให้ลงทุนซื้อขายเหรียญคริปโทฯ จากนั้นนาย “หยู่เกอ” บอสใหญ่ชาวจีน จะให้นายสุรชัยและนายสุรจิต ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ถอดคำพูดและวิธีการสอนให้พนักงานที่มาทำงาน ในการสร้างโพรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ สาวสวย หน้าตาดี ทางแอปพลิเคชัน ผ่านทางกูเกิลหรือโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้โดยเฉพาะ เช่น twitter 10-40 บัญชี และ Instragram 1 บัญชี และ facebook 1 บัญชี
โดยเฉพาะการสมัครแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ จะมีระบบโปรแกรมมาริโอ้ที่สร้างไว้สุ่มเข้ามาพูดคุยและทักทายทำความรู้จัก ตีสนิทติดตามเหยื่อก่อน เมื่อเหยื่อรับเป็นเพื่อนและติดตามคนร้ายกลับมา จะมีข้อความที่ตั้งไว้ตอบกลับอัตโนมัติในลักษณะคำทักทายเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง จนเหยื่อเริ่มพูดคุย มีการสนทนาโต้ตอบ กลุ่มมิจฉาชีพจะเริ่มใช้จิตวิทยาและประสบการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดจาก บอสใหญ่ ในการสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ อายุ งาน ประเทศ เบอร์โทร วอทแอป (WhatsApp) หากเหยื่อรายใดเริ่มมีความคุ้นเคย จะถามถึงสภาพคล่องทางการเงิน รายรับ-รายจ่ายของเหยื่อ จนกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์กลุ่มนี้ สามารถวิเคราะห์และประเมินได้ว่า เหยื่อมีรายได้และมีความสามารถในการลงทุน คนร้ายจะชักชวนเหยื่อร่วมลงทุน โดยให้เหยื่อดาวน์โหลดแพลตฟอร์ม bitkub, M.omxmax, Binace และ Letraders พร้อมทั้งสอนวิธีการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลคริปโทเป็น USDT, LTC, GLOE, BTC, ETH, WPE แนะนำเชิญชวนให้ลงทุนโอนเงินดอลล่าร์และจะให้เห็นว่าลงทุนแล้วได้กำไรและถอนเงินได้จริง เปลี่ยนให้เป็นเงิน USDT
พอเหยื่อลงทุนแล้ว ก็จะให้โอนเงิน USDT เข้าไปใน แพลตฟอร์ม ชื่อว่า “surlars-pro.com” และ “biteeb.com” ที่สร้างขึ้นปลอม เพื่อเป็นการเลี้ยงเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม โดยนายหยู่เกอ จะหลอกลวงโดยสร้างกราฟปลอม แสดงเป็นกราฟขาขึ้นให้เหยื่อดูเพื่อแสดงยอดเงินกำไรโชว์ให้เหยื่อหลงเชื่อลงทุนเพิ่ม หากเหยื่อจะถอนเงินที่ได้จากผลกำไร ทางแก๊งมิจฉาชีพจะเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเป็นค่าภาษี หากไม่ชำระภายในกำหนด ก็ไม่สามารถจะถอนเงินได้ จึงเป็นการหลอกผู้เสียหายซ้ำไปซ้ำมา จนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งการให้ติดตามจับกุม “อาฟู่” มือขวาบอสใหญ่ชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์จุดเกาะกง ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมาก แม้มีปัจจัยด้านต่างๆ แต่ตำรวจได้เฝ้าติดตามคนร้ายมาโดยตลอด เพื่อเป็นการตัดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ให้สิ้นซาก
สำหรับประชาชนที่คิดจะไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า อาชีพหรือลักษณะงานที่จะไปทำนั้นเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ และขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อกลวิธีเของแก๊งคอลเซนเตอร์ ชักชวนลงทุน หากท่านมีเบาะแสสามารถติดต่อไปยัง สายด่วน 1441 ตำรวจไซเบอร์ หรือ ศูนย์ ศปอส.ตร. 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com
