นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลาเมื่อวานนี้ทั้งวันขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินตรวจสถานการณ์น้ำจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ไปจนถึงจังหวัดสุโขทัยโดยนายกรัฐมนตรี ได้ลงตรวจสภาพน้ำท่วม ที่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพบว่าแม้จะมีน้ำท่วมบางพื้นที่แต่ก็มีปริมาณน้อยและเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วจึงไม่อยากให้ประชาชนตกใจเกินไปขอให้แยกสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งกับน้ำฝนให้ได้
ส่วนที่จังหวัดนครสวรรค์ นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบการเตรียมพร้อมเพื่อรับน้ำเหนือ และปริมาณน้ำฝน ของทางจังหวัดที่ได้มีการเร่งระบายน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อพร่องน้ำรอไว้แล้วซึ่งขณะนี้ มีน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่หากมีน้ำไหลผ่านสูงเกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำทั้ง ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา โดยจะมีเวลาแจ้งเตือนก่อนน้ำถึงประมาณ 4 วัน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ไปตรวจดูความคืบหน้าการซ่อมพนังกั้นน้ำที่เกิดปัญหาน้ำทะลักลอดใต้พนังจนน้ำท่วมบ้านเรื่องประชาชนที่บริเวณวัดราชธานี เขตเทศบาลเมืองสุโขทัย ซึ่งสามารถสกัดน้ำที่ไหลทะลักเข้าสู่ตัวเมืองได้แล้ว โดยนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าว่าหากอยู่บนสถานการณ์ปกติ การระบายน้ำ ของจังหวัดสุโขทัยจะไม่เกินประสิทธิภาพที่จะรองรับได้เพราะในขณะนี้ยังไม่มีลำน้ำใดที่มีปริมาณน้ำล้นตลิ่งเลย ส่วนมวลน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดสุโขทัยนี้ ทางกรมชลประทาน ได้เร่งระบายน้ำ ไว้แล้ว
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะตั้งทีมสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าไปดูแลประชาชนโดยการเยียวยาเป็นไปตามระเบียบเดิม ที่สามารถเข้าไปเยียวยาได้ โดยไม่ต้องรอให้น้ำลด
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ไปตรวจเยี่ยมครัวรัฐบาล พร้อมลงมือทำผัดกะเพราหมูถั่วฝักยาว แจกชาวบ้าน พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย
