“อดิศร เพียงเกษ” ปลุกพรรคเพื่อไทย ตำแหน่งประธานสภาฯ อย่ายอมยกให้ “พรรคก้าวไกล” ลั่นไม่ใช่พรรคสาขา ทำใจโหวตให้ไม่ได้ เตือนพรรคก้าวไกล ได้ 151 เสียง อย่าหาวเป็นดาวเป็นเดือน ต้องได้ทุกอย่าง สอนทำงานร่วมกันต้องมีการถ่วงดุลย์ ส่วนเก้าอี้ นายกฯ ยังยืนยัน พร้อมโหวตให้ “พิธา”
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นแสดงความเห็นอย่างดุเดือด ระหว่างร่วมโครงการเสริมศักยภาพ สส. และ บุคลากรทางการเมือง ซึ่งจัดโดยพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ (21 มิ.ย 66) ณ โรงแรม SC Park กรุงเทพฯ โดยเฉพาะประเด็นร้อนเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายอดิศร ยืนยันความคิดที่ว่า ไม่เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้สส. 141 คน จะไปยอมพรรคก้าวไกล ได้สส. 151 คน ทุกเรื่อง เพราะในการเลือกตั้ง ไม่มีพรรคการเมืองใดที่ได้คะแนนเกิน 250 เสียง ดังนั้น จึงถือว่ามีศักดิ์ศรีเท่ากัน แน่นอนว่า พรรคก้าวไกล ได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ตามประเพณี ต้องยกให้เป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งทุกคนเห็นด้วย พร้อมสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยความจริงใจ แต่ไม่ใช่ว่าได้ 151 เสียง แล้วจะหาวเป็นดาวเป็นเดือน เกินพลังที่ตนเองมีในหน้ากระดาษ จะมาเอาตำแหน่งประธานสภาฯ ไปด้วย ส่วนตัวมองว่าจะง่ายเกินไป ไม่เห็นเพื่อนฝูงอยู่ในสายตา
นายอดิศร ย้ำว่า ที่ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ โดยไม่ได้มัดนัดหมายกับใคร มีแต่ความตรงไปตรงมาไม่ได้อคติ และ ไม่ได้สู้เพื่อให้ตนเองได้เป็นประธานสภาฯ แต่สู้เพื่อให้เพื่อไทยยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ลูกน้องของพรรคการเมืองใด หากแบ่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แยกกับประธานสภาฯ การทำงานเดินหน้าควบคู่กัน มีแต่ความสง่างาม หรือ เรียกว่า check and Balance เกิดการถ่วงดุลในฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ดังนั้น หากมีความแย้งในเรื่องนี้ ก็ต้องไปถามความเห็นในสภาฯ ถ้ามีเพื่อนฝูงยกมือโหวตให้ได้มาก พรรคก้าวไกลก็รับตำแหน่งประธานสภาฯไป
นายอดิศร กล่าวอีกว่า ศักยภาพของคนพรรคเพื่อไทยมีมากกว่าพรรคก้าวไกล ส่วนตัวไม่อยากเห็นสามเณรกับพระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส ดังนั้น อย่าไปยอมให้พรรคก้าวไกลโดยง่าย เหมือนเป็นห่วงความรู้สึกของพรรคก้าวไกล เช่น ถ้าไม่ร่วมรัฐบาล กับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยจะสูญพันธุ์หรือไม่ จึงขอถามกลับว่า คุณเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทย ด้วยศักยภาพ แล ตามทฤษฎีแล้ว พรรคก้าวไกลควรถอย และ จะทำให้การทำงานของรัฐบาลผสมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เดินทางไปสู่การแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้โดยสะดวกโยธิน ส่วนตัวยัง ไม่รู้ว่าจะงดออกเสียงหรือไม่ เพราะไม่สามารถยกมือให้สามเณรและพระบวชใหม่ เป็นเจ้าอาวาทได้ ก่อนทิ้งท้ายว่า พรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคสาขาของพรรคก้าวไกล เพื่อไทยทำการเมืองต้องไม่อ่อน
