สนามข่าว 7 สี - หลังปรากฏภาพรีสอร์ตหรูสร้างอยู่บริเวณชะง่อนผา บนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักที่นี่สามารถมองวิวได้แบบพาโนรามา นอนฟังเสียงคลื่นแบบใกล้ชิด ทว่าความเป็นจริงและตามหลักกฎหมาย สถานที่แบบนี้สามารถสร้างรีสอร์ตที่พักได้ด้วยหรือ เมื่อวานนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบได้พบเจ้าของโครงการ ซึ่งก็ยินยอมรื้อถอนอาคารที่พักออกจากพื้นที่
เรื่องแดงขึ้นมาหลังจากมีผู้ร้องเรียนผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ชมรมSTRONGต้านทุจริต จังหวัดสุราษฎร์ธานี" โดยมีการนำภาพถ่ายอาคาร ห้องพักสุดหรู พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่สร้างอยู่ระหว่างซอกหินริมหน้าผา ถ้านักท่องเที่ยวท่านใดมาเข้าพักจะมองเห็นวิวทะเลได้กว้างสุดลูกหูลูกตา แน่นอนว่าทันทีที่เรื่องนี้ถูกแชร์ในโซเชียลชาวเน็ตตั้งคำถามมากมายว่า สถานที่แบบนี้สร้างได้ด้วยอย่างไร แล้วใครเป็นผู้อนุญาต ขณะที่บางคนวิจารณ์แรงว่า เขียนไปเท่าไร ถึงได้สิทธิมาสร้าง ไม่ใช่มีตังค์ แต่ต้องมีอิทธิพลด้วย
เพื่อไขข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เมื่อวาน (25 มิ.ย.) นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะไปตรวจสอบรีสอร์ตามที่ปรากฏในภาพอยู่พื้นที่ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เบื้องต้นพบอยู่ในความครอบครอบของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีหญิงคนหนึ่ง ยอมรับว่าเป็นเจ้าของโครงการรีสอร์ตดังกล่าว ชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเข้ามาครอบครองทำประโยชน์ที่ดินแปลงนี้ โดยมีเอกสารที่ดิน ภบท. 5 และต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ ว่าที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตที่ดินในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ ให้ไปดำเนินการขอเช่าที่ดินตามระเบียบ ก็ได้ไปยื่นขออนุญาตไว้แล้วตั้งแต่ปี 2561 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรังวัดตรวจสอบเพื่อดำเนินการออกใบอนุญาต
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบอาคารที่พัก และสิ่งก่อสร้างโดยรอบพบว่าไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จากเจ้าพนักงานท้องถิ่น แถมการก่อสร้างอาคารแต่ละหลังทับหาดหิน ทำให้ลักษณะทางกายภาพของพื้นที่บริเวณนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม รวมทั้งมีการตัดแต่งหิน เคลื่อนย้ายก้อนหินที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ทำให้เสียทัศนียภาพ
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสาวลึกลงไปอีกพบว่าที่ดินบริเวณนี้อยู่ในเขตพื้นที่ตามประการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าด้วยเรื่องกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ที่ครอบคลุมอีกหลายตำบล ซึ่งในประเด็นนี้ เจ้าของโครงการรีสอร์ต บอกว่า ไม่ทราบมาก่อนว่ามีระเบียบดังกล่าวออกมาบังคับใช้ และยืนยันว่ารีสอร์ตได้ดำเนินการมาก่อนที่จะมีประกาศฉบับดังกล่าวประกาศใช้ แต่พอคุยไปคุยมากับเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่าเจ้าของโครงการรีสอร์ตดังกล่าว พร้อมให้ความร่วมมือโดยยินยอมที่จะรื้อถอนอาคารออกจากพื้นที่
ขอบคุณภาพจาก : Facebook ชมรมSTRONGต้านทุจริต จังหวัดสุราษฎร์ธานี
