หลังปลดล็อกพืชกระท่อม ซื้อขายได้ทั่วไป วัยรุ่นป่วยเข้า รพ.ด้วยโรคไต จนต้องฟอกไตมากขึ้น เตือนคนที่รักให้ระวัง "ชื่นใจ ไตลำบาก" ผลกระทบกับร่างกายมีตั้งแต่เริ่มเสพจนถึงหยุดเสพ
หลังการปลดล็อกพืชกระท่อมจากยาเสพติด ใบกระท่อมสามารถซื้อขายได้ทั่วไป ทำให้เริ่มเห็นผลกระทบทางด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภาวะถุงท่อมในลำไส้ เนื่องจากก้านใบและใบของกระท่อมไม่สามารถย่อยได้ จึงตกตะกอนติดค้างอยู่ภายในลำไส้ ทำให้ขับถ่ายออกมาไม่ได้ เกิดพังผืดขึ้นมาหุ้มรัดอยู่โดยรอบก้อนกากกระท่อมนั้น ทำให้เกิดเป็นก้อนถุงขึ้นมาในลำไส้
ล่าสุดวันนี้ (26 มิ.ย.66) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เติ้ล บ้านฉาง” แจ้งเตือนถึงผู้บริโภคน้ำต้มใบกระท่อม ให้ระวังไตวาย ไตเสื่อม และอการป่วยเกี่ยวกับโรคไต โดยระบุว่า ชื่นใจ ไตลำบาก เตือนคนที่คุณรัก ได้รับแจ้งจากสถานพยาบาล ในช่วงนี้เริ่มมีวัยรุ่นเข้ามา โรงพยาบาล ด้วยอาการเกี่ยวกับโรคไต จนได้ฟอกไต พบประวัติดื่มน้ำกะท่อม โรงพยาบาลจะต้องเจอคนไข้โรคไตเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
สำหรับพืชกระท่อม มีคำเตือนเกี่ยวกับการเสพ โดยพบว่าหลังเคี้ยวใบกระท่อมไปประมาณ 5-10 นาที จะมีอาการเป็นสุข กระปรี้กระเปร่า ไม่รู้สึกหิว ไม่อยากอาหาร กดความรู้สึกเมื่อยล้าขณะทำงาน ทำให้สามารถทำงานได้นาน และทนแดดมากขึ้น แต่จะเกิดอาการกลัวหนาวสั่นเวลาอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน ผู้เสพจะมีผิวหนังแดงเพราะเลือดไปเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น อาการข้างเคียง ได้แก่ ปากแห้ง ปัสสาวะบ่อย เบื่ออาหาร ท้องผูก อุจจาระแข็งเป็นก้อนเล็กๆ นอนไม่หลับ
ถ้าเสพใบกระท่อมในปริมาณมากๆ จะทําให้มึนงง และคลื่นไส้อาเจียน (เมากระท่อม) แต่ในบางรายเสพเพียง 3 ใบ ก็ทำให้เมาได้ ในรายที่เสพใบกระท่อมมากๆ หรือเป็นระยะเวลานาน มักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีขึ้นที่บริเวณผิวหนัง ทำให้ผู้ที่รับประทานมีผิวคล้ำและเข้มขึ้น และยังพบอีกว่าเสพกระท่อมโดยไม่ได้รูดเอาก้านใบออกจากตัวใบก่อน อาจจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “ถุงท่อม” ในลำไส้ บางคนอาจมีอาการโรคจิตหวาดระแวง เห็นภาพหลอน คิดว่าคนจะมาทำร้ายตน และพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง
ส่วนอาการเมื่อหยุดเสพกระท่อม ไม่มีแรง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและกระดูก แขนขากระตุก อ่อนเพลีย ไม่สามารถทำงานได้ อารมณ์ซึมเศร้า นํ้าตาไหล นํ้ามูกไหล ก้าวร้าว นอนไม่หลับ เป็นต้น