คิตตี้ คริสติน่า เปิดใจ แม้อาการ เอส กันตพงศ์ ดีขึ้น แต่หัวใจยังมีอาการอักเสบ ส่วนร่างกายภายนอก ก็ยังต้องทำกายภาพ เผย ช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุดในชีวิต ไม่รู้เหมือนกัน ว่าตัวเองผ่านมาได้อย่างไร แต่รู้เพียงว่าจะแตกสลายไม่ได้ ต้องเข้มแข็ง เพื่อลูกสาว และสามี
คิตตี้ คริสติน่า ภรรยา เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ เปิดใจในรายการเที่ยงบันเทิงสดทางช่อง 7HD 27 มิถุนายน 2566 โดยระบุว่า ความรู้สึกตอนนี้ดีขึ้น เพราะเอส อาการดีขึ้น พ้นจากช่วงวิกฤตแล้ว ความกังวลลดน้อยลง แต่สำหรับสุขภาพของ เอส ขณะนี้แม้จะค่อยๆดีขึ้น แต่หัวใจยังมีอาการอักเสบอยู่ และสภาพร่างกายภายนอก ก็ยังต้องทำกายภาพ
วันแรกที่ เอส ได้สติ ขณะนั้นยังใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ ทำให้ เอส ยังพูดไม่ได้ แต่ก็มีความพยายามที่จะพูด และหลังจากนั้น 2-3 วันต่อมา แพทย์จึงถอดท่อช่วยหายใจออก และเอส พยายามที่จะพูด โดยปะติดปะต่อเป็นคำ เป็นประโยค และสิ่งที่พูดออกมา ลักษณะเหมือนกับว่าเอส กันตพงศ์ ยังสับสน ซึ่งขณะนั้น เอส คิดว่ายังทำงานอยู่ และสอบถามว่า "ขณะนี้ ถ่ายทำอยู่ฉากไหน เสื้อผ้าที่ใส่ต้องใส่ เป็นเสื้อผ้าอะไร" ซึ่งคิตตี้ เองก็เข้าใจ เพราะที่ผ่านมา เอส ทุ่มเทกับงาน และรักงานมาก ตนเองก็หวังว่า เอส จะได้กลับมาบนหน้าจอให้คุณผู้ชมได้ติดตามอีกครั้ง แต่ยังคงต้องใช้เวลารอให้ร่างกายพร้อมที่สุด หลังจากนี้คิตตี้ ก็ยังคงกังวล เรื่องสุขภาพของเอส หากกลับมาทำงานอยากจะให้พักบ้าง เพราะความทุ่มเทการทำงานเต็ม 100%
หลังจากที่ เอส ได้สติ น้องวาเลนติน่า ลูกสาววัยประมาณ 3 ขวบ ได้พูดคุยกับคุณพ่อ ซึ่งน้องวาเลนติน่า เข้าใจ และรู้ว่าพ่อมีอาการป่วย จึงเล่นกับพ่อและจำลองว่าตัวเองเป็นคุณหมอ เป็นนางพยาบาล ขณะนั้น เอส ก็ยังคงสับสนกับสถานการณ์หลังจากฟื้นขึ้นมา แต่ เอส ก็ยังจำได้ว่า "รักเด็กผู้หญิงคนนี้มาก"
สำหรับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า เอส กันตพงศ์ ฟื้นขึ้นมาแล้วพูดได้แต่ภาษาอังกฤษ จำภาษาไทยไม่ได้นั้น คิตตี้ ยืนยัน ไม่เป็นความจริง เพราะขณะที่ เอส ฟื้นขึ้นมาลักษณะเหมือนกับว่ากำลังเรียบเรียงคำพูด เรียบเรียงประโยคที่จะพูด สำหรับ comment กำลังใจที่แฟนคลับส่งมาให้ ทั้งคิตตี้และเอส ขอบคุณที่ส่งกำลังใจมาให้ ซึ่ง เอส รับรู้ทุกอย่าง
คิตตี้ เผยว่า ช่วงเวลาที่วิกฤตในชีวิต ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองผ่านมาได้อย่างไร แต่รู้เพียงว่าต้องเข้มแข็ง เพื่อลูกสาว ตนเองไม่สามารถแตกสลายได้ และยังต้องมีความหวังกับการดูแลเอส และลูกสาว ซึ่งแม่ของตนเอง ก็บินมาจากเยอรมัน เพื่อมาให้กำลังใจทุกคน ทำให้ไม่รู้ตัวเองว่าผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาได้อย่างไร แต่กำลังใจต่างๆ เป็นสิ่งที่ทำให้เขาผ่านมาได้
เหตุการณ์ที่ผ่านมา ตนเองเพียงแค่อธิบายง่ายๆกับน้องวาเลนติน่า ว่าพ่อไม่สบายต้องรักษา พ่อต้องนอนพัก ซึ่งก็เหมือนจะเป็นโชคดี เพราะน้องวาเลนติน่า สนใจเรื่องการเป็นคุณหมอ เป็นพยาบาล และอุปกรณ์ต่างๆที่ได้เห็นในการรักษาพ่อ และมักจะเล่นเป็นหมอ เป็นพยาบาลกับพ่อ
นอกจากนี้ คิตตี้ ยังเปิดอีกว่า ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันในครอบครัวว่าช่วง 4 ปีแรกของน้องวาเลนติน่า เอส จะเป็นคนทำงาน และให้คิตตี้ เป็น full Time mom แต่เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตัวคิตตี้เองก็มีแพลนที่จะทำงาน และพร้อมเปิดรับการทำงาน
สุดท้ายนี้ คิตตี้ยังคงเชื่อว่า การที่ เอส สามีฟื้น ขึ้นมาเป็นเหมือนกับปาฏิหาริย์ แน่นอนว่าการรักษาของหมอ และกำลังใจก็สำคัญมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่า นี่คือปาฏิหาริย์ ซึ่งหมอบอกว่ากรณีแบบนี้ ที่ร่างกายขาดออกซิเจนไปนาน โอกาสที่จะกลับมาได้แบบ เอส กันตพงศ์ คือ 1 ใน 10 เท่านั้น
