ขยี้ข่าวใหญ่ : ปิดคดี แอม ไซยาไนด์ ฆาตกรรมต่อเนื่อง โทษสูงสุดประหารชีวิต

View icon 144
วันที่ 30 มิ.ย. 2566 | 11.21 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ขยี้ข่าวใหญ่วันนี้ พาคุณผู้ชมไปดูการปิดคดีแอม ไซยาไนด์ ฆาตกรต่อเนื่อง ที่มีเหยื่อมากที่สุดถึง 14 ศพ ทำการฆาตกรรมอย่างเลือดเย็นยาวนานตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปี 2566 สุดท้ายตำรวจใช้เวลาสืบสวน สอบสวนอยู่ 2 เดือนเศษ ก็ปิดจบสำนวนทั้ง 15 คดี ส่งอัยการแล้ว

มาไล่เลียงพฤติกรรมอำมหิตของฆาตกรต่อเนื่องรายนี้กันหน่อย เหยื่อรายแรกเกิดขึ้นในปี 2558 จากนั้นเว้นว่างไปนาน 5 ปี เกิดการฆาตกรรมต่อเนื่อง 3 รายรวด ไล่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พฤศจิกายน และธันวาคม ก่อนจะมีการฆาตกรรมอีกครั้งในเดือนมกราคม ปี 2564 เท่ากับเหยื่อ 3 รายหลัง มีระยะห่างกันแค่ 1 เดือนเท่านั้น

ขณะที่เหยื่อรายที่ 6 เว้นระยะห่างจากเหยื่อรายที่ 5 ราวปีเศษ แต่ที่น่าตกใจคือเมื่อเริ่มลงมืออีกครั้งในปี 2565 ปรากฏว่ามีเหยื่อฆาตกรรมในเดือนสิงหาคมเดือนเดียวถึง 3 ราย และกระทำต่อเนื่องในเดือนกันยายนอีก 3 ราย แต่รายที่ 11 โชคดีรอดชีวิต ก่อนที่จะเว้นไปหนึ่งเดือน เริ่มการฆาตกรรมอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน เรียกว่าย่ามใจมาก ในปี 2565 เพียงปีเดียว แอม ไซยาไนด์ ฆ่าคนไปถึง 6 ราย

และเธอยังไม่หยุดพฤติกรรมเหี้ยมโหดแต่เพียงเท่านั้น มีนาคม 2566 เริ่มล่าเหยื่ออีกครั้งจุดจบเหมือนกับรายอื่น ๆ คือ เสียชีวิตจากการถูกวางยาไซยาไนด์ กลายเป็นเหยื่อรายที่ 13 ผ่านไปไม่ถึงเดือน วันที่ 1 เมษายน 2566 ก็เริ่มการฆาตกรรมอีก และในเดือนเดียวกันยังมีเหยื่อที่ต้องสังเวยความโลภของแอม ไซยาไนด์อีก 1 ราย รวมมีเหยื่อเสียชีวิต 14 ราย รอดเพียงรายเดียวเท่านั้น จากทั้งหมด 15 คดี มีพื้นที่ก่อเหตุทั้งหมด 8 จังหวัด

โดยสาเหตุที่การฆาตกรรมต่อเนื่องถูกเปิดโปงขึ้น เกิดจากญาติเหยื่อรายสุดท้ายติดใจสงสัย จนนำไปสู่การร้องเรียน แจ้งความดำเนินคดี กระทั่งพบความจริงที่น่าสะพรึงกลัว กับการฆาตกรรมต่อเนื่องที่มากที่สุดในประเทศไทย

สำหรับแผนประทุษกรรมของแอม จะใช้วิธีเลือกเหยื่อ เข้าไปตีสนิท ออกอุบายให้เหยื่อหลงเชื่อร่วมทำธุรกรรมทางการเงินด้วย ทั้งเล่นแชร์ และร่วมลงทุน โดยเหยื่อจะมี 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งร่วมวงแชร์ ส่วนอีกกลุ่มเป็นเจ้าหนี้ แต่ทั้งหมดมีแรงจูงใจที่ถูกฆาตกรรมเหมือนกันคือ ฆ่าล้างหนี้ และประสงค์ต่อทรัพย์สิน

หลังตำรวจใช้เวลาสืบสวนสอบสวนอยู่เกือบ 3 เดือน ก็สรุปสำนวนเป็นเอกสารมากถึง 26,538 แผ่น พยานเอกสาร 396 รายการ พยานวัตถุ 130 รายการ และ ผลตรวจพิสูจน์อีก 147 รายการ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 3 ราย นอกจากแอมแล้ว ก็จะมีอดีตสามีที่เป็นนายตำรวจ และทนายความ ฐานให้ความช่วยเหลือทำลาย พยาน หลักฐานด้วย ส่วนแอม ไซยาไนด์ โดนไปทั้ง 80 ข้อหา รวม 15 คดี โทษสูงสุดคือ ประหารชีวิต โดยมีการสรุปสำนวนทั้งหมดส่งอัยการ และแถลงปิดคดีช่วงเช้าที่ผ่านมา

หลังจากนี้อัยการมีเวลาในการพิจารณาสำนวน ก่อนมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง อีกไม่ถึง 21 วัน ก็จะครบกำหนดฝากขัง ที่ทำได้แค่ 7 ผัด ก็ถือว่าเป็นเวลาที่ไม่มากนักสำหรับฝั่งอัยการ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาแล้ว เพราะถือเป็นคดีสำคัญ โดยจะต้องมีการรายงานตรงไปยังอัยการสูงสุดด้วย และทางอัยการก็ยังมีความมั่นใจ สรุปสำนวนส่งฟ้องได้ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด

ส่วนการต่อสู้คดีของ แอม ไซยาไนด์ ยังใช้บริการ นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือทนายพัช ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เพิ่งจะไปยื่นขอให้ศาลอาญาไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อคัดค้านการฝากขังครั้งที่ 6 โดยระบุว่า แอมไม่ได้เข้ารับการพิจารณาการฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

แต่ศาลยกคำร้อง โดยเห็นว่า การยื่นฝากขังชอบด้วยกฎหมายแล้ว และแนวทางการต่อสู้จากนี้ ก็คงต้องไปสู้ต่อในชั้นศาล หลังอัยการส่งฟ้อง ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคำสารภาพจากปากของ แอม ไซยาไนด์ และตัวทนายพัช ก็มีคดีติดตัว ฐานทำลายพยานหลักฐานพ่วงด้วย ส่วนอดีตสามีนายตำรวจ ที่ถูกดำเนินคดีร่วมกัน ตอนนี้ได้รับการประกันตัว ไม่ได้ถูกคุมขังแต่อย่างใด