ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่าคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ พบประวัติก่อเหตุมาหลายครั้ง ได้เงินไปเกือบแสน แต่รอดมาได้ทุกครั้ง เพราะถือฤกษ์ยามก่อนลงมือ
ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่าชายต้องสงสัย หลังจากรับแจ้งว่าชายคนนี้ เตรียมจะก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ สาขาตำบลแจระแม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
โดยตำรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ของตำรวจและของคนร้ายเสียหลักล้มลงทั้ง 2 คัน แต่คนร้ายยกรถขี่หนีต่อไปได้ ตำรวจต้องทิ้งรถวิ่งตาม แต่ก็ไม่ทัน
ตำรวจย้อนกลับมาในจุดที่รถล้ม พบกระเป๋าของคนร้าย มีเสื้อผ้า วิกผม รองเท้า และโทรศัพท์มือถือตกอยู่ ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์เป็นของ นายพันธ์ธารา นิติรัตน์ปภากุล อายุ 36 ปี ตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าที่บ้านดอนยูง ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี
สอบสวนเบื้องต้น นายพันธ์ธารา ให้การรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี มาแล้วประมาณ 6 ครั้ง ในรอบ 2 ปี ได้เงินไปเกือบ 100,000 บาท แต่ไม่เคยถูกจับ โดยก่อนก่อเหตุแต่ละครั้ง จะดูฤกษ์ยามอุบากอง และจุดธูป 9 ดอก เพื่อให้แคล้วคลาด แต่ครั้งนี้ออกจากบ้านมาก่อเหตุ ก็ดูยามอุบากองเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่ฤกษ์ดี เป็นฤกษ์ปลอดศูนย์พูลสวัสดิ์ ภัยพิบัติ ซึ่งแปลว่าวันนี้มีภัย แต่อยากลองฝืนยามอุบากองว่าจะจริงหรือไม่ สุดท้ายก็ถูกจับได้จนได้
ยามอุบากอง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ยันต์อุบากอง เป็นศาสตร์ที่คนโบราณมีไว้ดูวันดี เวลาดีในการทำสิ่งต่าง ๆ ควรเป็นวัน-เวลาไหน วันใดจะมีเคราะห์ วันใดจะมีลาภ
ปัจจุบัน ยามอุบากอง ถูกนำไปใช้ในการดูฤกษ์ของหลาย ๆ สิ่ง เช่น ฤกษ์ออกเดินทาง, ฤกษ์ออกรถ, ฤกษ์นำเสนอขายงาน, ฤกษ์เข้าพบลูกค้า ต้นกำเนิดของยามอุบากอง ในหลักฐานสมัยรัชกาลที่ 1 บันทึกเรื่องราวของทหารพม่าที่เข้ามารบกับไทยนามว่า "อุบากอง" เมื่อถูกไทยจับขังคุกเป็นเชลยศึก ระหว่างถูกจองจำ อุบากองได้ถ่ายทอดไสยศาสตร์ด้านการดูฤกษ์ยามให้กับผู้ที่ถูกคุมขัง เพื่อใช้ดูวันเวลาหนีออกจากคุก
ซึ่งอุบากอง สามารถหนีคุกออกไปได้ พร้อมนักโทษจำนวนหนึ่ง แต่ก็มีผู้ที่ไม่ได้หลบหนีออกไปด้วย แล้วนำศาสตร์ที่ได้เรียนรู้มาเผยแพร่ในชื่อยันต์ยามยาตราอุบากอง หรือยามอุบากอง
แต่สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ยามอุบากองใช้ไม่ได้ผล โดนจับเรียบร้อย ถูกนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ระหว่างทำแผน นายพันธ์ธารา เล่าว่า ที่ผ่านมาไม่เคยถูกจับ เพราะวางแผนอย่างดีก่อนก่อเหตุ มีการสำรวจเส้นทางหลบหนี สำรวจกล้องวงจรปิด นำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ห่างจากจุดก่อเหตุไกล ๆ เพื่อสะดวกและตบตาเจ้าหน้าที่ ตำรวจตั้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ดำเนินคดีกันต่อไป