เปิดใจพ่อค้าใกล้สะพานถล่มลาดกระบังลั่นคนพื้นที่ไม่เห็นด้วยก่อสร้างสะพาน ชี้ไม่แก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน โอดอนาคตคงต้องย้ายหนี
เสียงสะท้อนพ่อค้า เจอสะพานถล่ม วันนี้(11 ก.ค.2566) นายคำรณ ละมั่งทอง 54 ปี เจ้าของร้านธนเกษตรภัณฑ์ ซึ่งเป็นร้านชายเคมีเกษตร ตั้งอยู่ริมถนนหลวงแพ่งขาออก แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ จุดเกิดเหตุคานเหล็กโครงการก่อสร้างทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ถล่มและโดนปิดการจราจรบริเวณหน้าร้าน เปิดใจกับทีมข่าวออนไลน์ 7HD ว่า สภาพการก่อสร้างทั้งเสา รูปแบบการทำงาน ดูไม่ค่อยมีความปลอดภัย ส่วนตัวได้รับผลกระทบมานานถึง 2 ปี ตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง เริ่มตั้งแต่การวางแบร์ริเออร์แต่ยังไม่เริ่มการก่อสร้าง ใช้เวลาในการก่อสร้างนานเกินไป การทำงานควรขยายพื้นผิดการจราจรออกมาก่อน แต่กลับวางแบร์ริเออร์ ปล่อยให้ประชาชนใช้ถนน 2 ช่องทาง จากเดิมที่มีอยู่ 3 ช่องทาง หากขยายตั้งแต่แรกก็จะเดือดร้อนน้อยลง
จากนั้น เมื่อเสาตอม่อเริ่มขึ้น ต้องขยายแบร์ริเออร์ออกมา ผู้รับเหมาจึงมาขยายพื้นผิวการจราจร แต่การขยายถนนระยะประมาณ 30 เมตร ใช้เวลา 15 วัน งานยังไปไม่ถึงไหน ทั้งที่การทำงานควรจะขยายถนนก่อนเริ่มทำงานก่อสร้าง ยอมรับว่าไม่ทราบเหตุผลของทีมก่อสร้างและสำนักงานเขตที่ไม่ยอมให้ขยายถนนก่อน
นายคำรณ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง ยอดรายรับหายไปเยอะ ตอนนี้ได้แต่ทำใจ เพราะคงจะต้องย้ายร้าน เพราะต่อให้ทำแล้วเสร็จ ถนนจาก 3 ช่องทางเหลือ 2 ช่องทางแล้วห้ามจอดรถ ส่วนตัวขายของหนัก อาหารสัตว์ ข้าวสาร ผลิตภัณฑ์ทางเกษตร ต้องมีพื้นที่จอดรถ ร้านนี้เปิดมานานร่วม 30 ปี ตั้งแต่สนามบินยังไม่ได้สร้าง ซึ่งทุกคนในพื้นที่ ไม่ได้เห็นด้วยกับการสร้างสะพานแห่งนี้ เพราะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคนในพื้นที่ เพราะสาเหตุที่รถติดขัดเนื่องจากโรงเรียนในพื้นที่มีหลายแห่ง หมู่บ้านเกิดขึ้นจำนวนมาก แต่ก่อนมีรถทัวร์จากบริษัททัวร์เพราะใกล้สนามบิน เมื่อถึงช่วงเวลาเร่งด่วน รถจึงเยอะมาก หากไม่ใช่เวลาเร่งด่วนรถก็ไม่ติด
เจ้าของร้านธนเกษตรภัณฑ์ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรหน้าร้านว่า เราทำอะไรไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยตามสภาพ แต่ขอให้เขาช่วยเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น จากหน้าร้านใช้เวลารื้อทางเท้ามา 15 วันแล้วก็เกิดผลกระทบ เมื่อคุยกับหัวหน้าคนงาน ทราบว่าตอนนี้สั่งระงับหมดทุกอย่าง จึงถามว่าหน้าร้านจะทำยังไง ก็ได้รับคำตอบว่าไม่รู้ ให้คำตอบไม่ได้ แต่เราต้องเสียทั้งค่าเช่า ค่าลูกน้อง ค่าใช้จ่ายอีกหลายส่วน ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปในอนาคต แต่คงต้องย้ายร้านหนีตรงนี้แน่นอน